หลังจากจบเกม All Star ได้ไม่ทันไรอดีตคู่ปรับที่เคยเป็นคู่แข่งทีมดาวรุ่งเมื่อ 5 ปีก่อนอย่าง L.A. Clippers และ Golden State Warriors ซึ่งก็เป็นที่แน่ชัดว่าทีมสะพานทอง Warriors จะเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดด้วยการเริ่มเพลย์แบบเดิม 4 เพลย์ติดและก็ทำแต้มได้ทุกครั้งด้วย
เพลย์แรก
ในเพลย์แรก Warriors เปิดเกมด้วยการให้ Draymond Green และ Kevin Durant สกรีนให้ Stephen Curry จากนั้นก็ยิง 3 คะแนน (สังเกตที่หน้าของ Milos Teodosic และ Austin Rivers)
เพลย์ที่สอง
หลังจากเสียสามแต้มไป L.A. Clippers ก็สามารถทำคืนมาได้ 2 คะแนนแต่ว่าเกมป้องกันพวกเขาก็ยังคงเหมือนเดิม โดนสามคะแนนของ Curry จากการสกรีนของ Draymond Green และ Kevin Durant ไปอีกหนึ่งลูก
Golden State เล่นเพลย์เดิมสองครั้งติดกับความผิดพลาดที่ DeAndre Jordan หลุดจากตัวประกบไม่ได้เข้าไปชิดใครเลย
เพลย์ที่สาม
Curry,Green และ Durant ยังคงเริ่มด้วยสกรีนเหมือนเดิมแต่รอบนี้ที่ต่างไปคือ Jordan ตามมาชิด Curry ไม่ยอมให้ยิงสามคะแนนแต่สุดท้ายก็โดน Green ตัดเข้าในไปทำแต้มแบบสบายๆเพราะ Rivers หลุดจากตัวประกบ
เพลย์ที่สี่
ไม่รู้ว่าเพราะพวกเขาตั้งใจจะหยาม LAC หรือเพราะการเล่นมันยังไปต่อได้ GSW ก็ยังคงให้ Green และ Durant มาสกรีนให้ Curry อีกครั้งและรอบนี้บอลก็มาอยู่ใน Curry แบบ 2 เพลย์แรกแต่เขาเลือกที่จะข้ามเข้าไปเพราะเร็วกว่า Jordan และทิ้งบอลออกมาให้ Durant เก็บไปอีก 3 คะแนนง่ายๆ
เราจะเห็นได้ว่า 4 เพลย์ที่ Golden State เล่นเริ่มจากการสกรีนคู่ให้ Curry หมดเลยซึ่งทาง Doc Rivers ก็ไม่สามารถหารูปแบบป้องกันที่จะหยุดเพลย์นี้ได้เลย แสดงให้เห็นว่าการป้องกันในจังหวะ 2 – 3 หรือจังหวะแก้ไขสถานการณ์ยังถือเป็นปัญหาใหญ่อยู่และยังบอกเป็นนัยๆอีกว่าพวกเขายังสื่อสารกันได้ไม่ดีพอ พวกเขาเปลี่ยนรูปแบบการป้องกันมาตลอดฤดูกาลซึ่งก็ยังหาจุดที่ลงตัวไม่ได้ซักที
Butler เป็นผู้เล่นที่มีเวลาลงเล่นในสนามมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีกด้วยเวลา 37.1 นาทีต่อเกม เขาตัดสินใจเลือกที่จะไม่ลงเล่นใน All Star เพื่อที่จะพักผ่อนร่างกายให้สามารถลงเล่นในเกมจริงได้เต็มที่แต่กลับเจ็บตั้งแต่เกมที่สองที่ลงเล่นหลัง All Star จบ ทำให้ตอนนี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของ Thibodeau ที่ต้องหาทางหมุนตัวผู้เล่นใหม่ในส่วนที่ขาดหายไป
กลายเป็นปีที่กลับมาสนุกอีกครั้งกับ All Star Game 2018 เมื่อมีหลายเสียงชมว่าการแข่งขันที่ดูเอาจริงเอาจังเริ่มกลับมาอีกครั้งและดูเหมือนว่า LeBron James จะดูเอาจริงกว่าใครในสนาม
“เราคุยกันเรื่องนี้ตอนซ้อมว่าเราต้องการที่จะเปลี่ยนมุมมองและทัศนคติของคนดูที่มีต่อ All-Star Game” Casey กล่าวหลังจบเกม All Star “ผมคิดว่าเกมคืนนี้เป็นเกมที่ดีนะ ผมให้อำนาจ LeBron และ Durant เต็มที่แล้วทุกคนก็ทำได้ดีขึ้นจริงๆ พวกเขาพูดย้ำเรื่องที่คุยกันมาก่อนตลอด มาเปลี่ยนกันเถอะ เรามาเปลี่ยนให้ทุกคนมอง All Star Game กันใหม่เถอะ”
คงไม่ต้องบอกว่า การป้องกัน คือปัจจัยหลักของชัยชนะในเกมบาสเก็ตบอลและนั่นคือสิ่งที่ขาดหายไปใน ALl Star เกมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ว่าทีม LeBron ก็ดึงเอามันกลับมาอีกครั้งโดยเฉพาะช่วงสุดท้ายของเกม จนผู้เล่น MVP 2 สมัย Stephen Curry ต้องยอม
กับการลงเล่นเป็นฤดูกาลที่ 15 ใน NBA ด้วยวัย 33 ปี LeBron James ยังคงขึ้นชื่อเป็นผู้เล่นที่อาจถูกเรียกได้ว่าดีที่สุดในโลกนะตอนนี้ตอนคะแนนที่ทำในสนามและคอยแนะนำเพื่อนร่วมทีมให้เดินในทางที่ควรจะก้าวแต่สำหรับการเอาชนะเกม์และคว้ารางวัล MVP All Star ปีนี้ เขาบอกว่าไม่ได้ต้องการข่มผู้เล่นหน้าใหม่ไม่ให้มาแย่งเก้าอี้ผู้เล่นอันดับ 1 ไปแต่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้เพื่อนร่วมทีมเห็นว่าเขายังสามารถนำทีมได้
จบไปแล้วกับ All Star 2018 แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนคงทราบกันดีแล้วว่า Team LeBron เป็นผ่านชนะ 148-145 แต่เผื่อใครพลาดไม่ได้ดูเกมเต็มหรือดูแล้วยังไม่อินเท่าไหร่ก็มาดูโพสต์นี้เพื่อที่จะไม่พลาดความสนุกที่เกิดขึ้นนะจ๊ะ
ก่อนเกมจะเริ่มดูเหมือน Westbrook กับ Durant จะกลับมาคุยแบบเฮฮากันอีกครั้งหลังจากที่ชอบมีปากเสียงให้คนดูได้ลุ้นในเกมจริง (Kyrie ก็มาคุยด้วย จะชวนไปอยู่ Boston Celtics หรือเปล่านะ)
Steve Kerr ชนะมาแล้วถึง 250 เกมส์ในฐานะหัวหน้าโค๊ชของทีม Golden State Warriors และในชัยชนะครั้งนี้เขาแทบไม่ต้องคุมทีมเองเลยเพราะว่า Kerr ตัดสินใจให้ผู้เล่นภายในทีมมาเลือกแผนแล้วคุมกันเองและเอาชนะ Phoenix Suns ไปได้ 129-83
Andre Iguodala คือคนแรกที่ Kerr เอาบอร์ดสั่งการให้คุมทีมตั้งแต่ควอเตอร์แรก ตามด้วย David West และ Draymond Green ที่เข้ามาวางแผนในช่วงขอเวลานอก ส่วนโค๊ชตัวจริงก็ไปยืนมองดูห่างกับผู้ช่วยโค๊ช
Golden State มีสถิติชนะ 44 แพ้ 13 และชนะมา 3 เกมส์ติดใน 4 เกมส์ล่าสุดที่ลงเล่น
“ผมบอกพวกเขามาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะทำแบบนี้ มันเป็นทีมของพวกเขา ผมคิดว่าสิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงถึงเสมอในฐานะโค๊ชคือมันไม่ใช่ทีมของคุณ ไม่ใช่ของผู้จัดการ Bob Myers ไม่ใช่ของเจ้าของทีมอย่าง Joe Lacob แม้ว่าผมจะไม่พูดกับ Joe แบบนั้นก็ตาม”
“มันมองได้สองด้านนะ คุณจะบอกว่าใครคุมพวกเขาก็ได้(เพราะเก่งอยู่แล้ว) หรือจะบอกว่ามันเป็นวิธีใหม่ที่ดีทีเดียวก็ได้ส่วนตัวผมชอบวิธีนี้นะ ผมไม่คิดว่ามันเป็นการไม่ให้เกียรติหรืออะไรเลยและผมก็แน่ใจว่าคนอื่นก็คิดแบบนั้น Steve เป็นคนง่ายๆที่เข้ากับลูกทีมของเขาได้ดีแต่ผมก็ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ถ้าไม่มีผู้เล่น All Star ถึง 4 คนในทีมเดียว”
ในเกมวันนี้ LeBron James ต้องลงเล่นกับเพื่อนร่วมทีมชุดใหม่จากการเทรดสุดโหดที่ผ่านมาชนิดที่เรียกได้ว่าผ่าตัดทีมกันเลยทีเดียว
Cleveland Cavaliers ทำการเทรดครั้งใหญ่ด้วยการส่งตัว Isaiah Thomas และ Channing Frye พร้อมสิทธิดราฟรอบแรกของทีมไปให้ Los Angeles Lakers เพื่อแลกกับ Jordan Clarkson และ Larry Nance Jr.
เทรด 3 ทีมกับ Jazz กับ Kings – ได้รับ George Hill และ Rodney Hood และเสีย Derrick Rose,Jae Crowder และ Iman Shumpert
Jayson Tatum มีฟอร์มที่น่าประทับใจในการเล่นในลีก NBA และอยู่ในรายชื่อผู้เล่นมีลุ้น Rookie of the year แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้เขามีสิทธิพิเศษอะไรในการเข้าไปเที่ยวผับที่ L.A. ได้
ผู้เล่นตำแหน่ง Power Forward ระดับตัวจริงใน NBA คนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวไว้ว่า “ผมชอบเค้านะนอกสนาม แต่ผมไม่ชอบเล่นแข่งกับเค้าเลยในสนาม ผมต้องใช้เวลาพักฟื้นร่างกายนานมากหลังเจอเค้าก่อนจะกลับไปเต็มร้อยอีกครั้ง”
SLAM: สำหรับพวก Big men คนอื่นๆ หลายคนมันดูเหมือนเค้าต้องพยายามมาก แต่การทำ 25 แต้ม 12 รีบาวด์มันดูเกิดขึ้นเองสำหรับคุณ
DMC: ไม่อยากจะให้ฟังดูอวดดีหรอกนะ แต่มันง่าย
SLAM: ถามซ้ำ งั้นตกลงคุณคือ Big Man ที่ดีที่สุดในลีก?
DMC: อย่างห่างไกลเลยล่ะ
……..
เชื่อหรือไม่เชื่อ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เค้าพูดก็แล้วแต่คุณจะตัดสินใจเถอะ แต่ที่แน่ๆก็คือเค้าคือ Big Man ที่น่าสนใจที่สุดคนหนึ่งในลีกในตอนนี้และเค้าเต็มไปด้วยไฟแห่งการแข่งขันและทักษะรอบด้านที่หาไม่ได้ง่ายๆในผู้เล่นตัวใหญ่ในปัจจุบัน หวังว่าแฟนบาสชาวไทยจะได้มีโอกาสดูและพิสูจน์ฝีมือของเค้ามากขึ้น และร่วมกันพิสูจน์ว่าเค้าจะมีดีเหมือนที่พูดจริงหรือไม่ในระยะยาว