อาจจะดูไม่คุ้นตาไปบ้าง เหมือนมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะสำหรับ ไทเลอร์ แลมป์ แต่ท้ายสุดแล้ว ทั้งหมดคงเป็นส่วนหนึ่งของการโตขึ้นตามกาลเวลา
ทั้ง Thailand Basketball League (TBL) และ Thailand Professional Basketball League (TPBL) ต่างก็แข่งกันผ่านไปแล้วกว่าครึ่งฤดูกาล แต่ไม่ว่าจะเห็นไปทางไหน หาดูในทีมไหนๆ ก็ไม่มีใครเห็นไทเลอร์ แลมป์
ไม่ว่าจะกับทีมไฮเทค ที่คว้าแชมป์ TBL มาด้วยกันเมื่อปีที่แล้ว หรือ แม้แต่ทีมในสังกัดเครือ Mono ทั้งสองทีมใน TPBL ก็ไม่อยู่ ทั้งที่ไทเลอร์เพิ่งลุยด้วยกันมาใน ASEAN Basketball League เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
แต่หลังจากที่หายไปนาน ไทเลอร์ ก็โผล่มาให้เห็นอย่างเป็นทางการ ในการแข่งขัน TPBL ระหว่าง ไฮเทค และ โมโน สกอร์เปียนส์ หากแต่ไม่ใช่ในฐานะผู้เล่นอย่างที่คุ้นตากัน คราวนั้น เป็นแค่เพียงแฟนบาสที่เชียร์ข้างสนามคนหนึ่งเท่านั้นที่มาให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมเก่าๆ ที่เคยเล่นด้วยกันมาในทีมทั้งสองทีม
แน่นอนว่า แฟนๆ คงอยากเห็นเขากลับมาลงสนามมาสาดส่องสามแต้มอย่างที่เคยๆ แต่ในวันนั้น เจ้า “แลมโบ้” ขออยู่ในโหมดพักผ่อนหน้าร้อนต่ออีกซักหน่อยละกัน อย่างน้อยก็อีกวันหนึ่ง

“ผมได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวมาซะส่วนมาก ได้กลับมาประมาณเดือนครึ่งเลยแหละ ก็มีความสุขดีนะ” ไทเลอร์เล่าถึงช่วงเวลาที่ผ่านๆ มาหลังจากจบซีซั่นใน ABL “ตอนนี้ผมก็กลับไทยมาได้อาทิตย์นึงละ ก็รอดูว่าจะเอายังไงต่อ”
ก่อนหน้าที่จะได้คุยกันครั้งนั้น ไทเลอร์ ได้ขอไว้ว่าอย่าเพิ่งถามเขาว่าเขาจะไปเล่นทีมไหนในลีกไหน
ก็อย่างที่บอก ว่าเขายังอยากอยู่ในโหมดพักผ่อนก่อน
แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการตามมาอยู่ดี ชี้แจงให้แฟนๆ ได้ทราบกันว่า สตาร์ทีมชาติบาสไทยคนนี้ได้ตกลงที่จะเล่นให้กับทีม โมโน สกอร์เปียนส์ ในช่วงครึ่งหลังของ TPBL ซีซั่นนี้
มันจะเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับ ไทเลอร์ แลมป์ อย่างไม่ต้องสงสัย… และประสบการณ์ใหม่ๆ ก็ต้องมาพร้อมกับ มาดใหม่ๆ ลุกใหม่ๆ อีกเช่นเดียวกัน
ไม่มีอีกแล้วสำหรับ ทรงผมถัก มัด หรือ ปล่อยฟูลอยละล่องตามลม
ช่วงปีที่ผ่านๆ มา ทรงผมของ ไทเลอร์ แลมป์ นี่ก็ถือได้ว่าเป็นจุดสนใจที่แฟนๆ บาสชาวไทยติดตามกันอย่างใกล้ชิด แต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว เหลือแต่ทรงผมเรียบง่ายเฉียบคมที่แลดูสะอาดสะอ้านหมดจด
แฟนๆ คงต้องทำความเคยชินกันซักพัก และมันก็น่าแปลกที่ถึงแม้จะเป็นทรงผมที่ทำให้ไทเลอร์ดูเด็กลงไปจากเดิม แต่ในบางมุม เขากลับดูเหมือนโตขึ้นมาด้วยซ้ำ

“ผมก็ไม่อยากเข้าเรื่องจริงจังอะไรขนาดนั้นนะ แต่ [ที่ตัดผมไป] ผมแค่รู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วแหละ ผมไว้ผมมาสามปีแล้ว และตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองได้โตขึ้นมาอีกขั้น ต้องเตรียมรับอะไรใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตมากขึ้น ก็เลยคิดว่าถึงเวลาตัดทิ้งไป แล้วก็ เวเวลอัพ ตัวเองขึ้นมาหน่อย”

ไทเลอร์นั่งดูการแข่งขันเกมนั้นระหว่างทีมเก่าของตัวเอง (ไฮเทค) กับทีมใหม่ (โมโน สกอร์เปียนส์) ด้วยรอบยิ้มฉีกกว้างตามฉบับที่ได้ใจแฟนๆ คนไทยมาตลอดไม่ว่าจะทั้งเล่นทีมสโมสร หรือ เล่นทีมชาติ
ขามองลงไปที่สนามจากที่นั่งบนแสตนด์ของสนามยิมไฮเทค สถานที่ที่ไทเลอร์คุ้นเคยมานาน
ยิมแห่งนี้นี่แหละ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นบาสอาชีพของเขากับทีม Hitech Bangkok City ใน ABL
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อนก็เป็นสนามที่นี่แหละ ที่เขาซุ่มซ้อมจนเหงื่อท่วมหยดไปที่พื้นไม้ ปูเส้นทางขึ้นมาเรื่อยๆ จนเป็นนักบาสแนวหน้าคนหนึ่ง
รอบด้านทุกฝั่งของกำแพงที่สนามไฮเทค เต็มไปด้วยรูปภาพและแบนเนอร์ที่ฉลองความสำเร็จของสโมสร และ หนึ่งในนั้นก็คือแบนเนอร์ฉลองแชมป์ TBL ปี 2018 ที่มีตัวไทเลอร์เอง (ในสภาพที่ยังผมดกฟู) ยิ้มแป้นร่วมกับทุกๆ คน
ในช่วงปีที่ผ่านๆ มา รูปภาพ และ แบนเนอร์ต่างๆ ก็ได้มีการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อัดแน่นไปบนฝาผนังทุกฝั่งจนแทบเต็มเอียด เช่นเดียวกัน ไทเลอร์ ก็มีการเพิ่ม “รูปภาพ” และ เรื่องราวๆ ต่างๆ บนตัวของเขาเช่นเดียวกันในรูปแบบของรอยสัก
ล่าสุด เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ไทเลอร์ก็เพิ่งไปสักเพิ่มมา ซึ่งก็ได้โชว์ผลงานสุดเท่ทาง Instagram
รอยสักลายใหม่ เป็นลายช้างไทยบนไหล่ขวา ส่วนทางด้านไหล่ซ้ายได้ลงลายเป็นรูปทวีปแอฟริกาไว้ โดยแลมป์ได้อธิบายว่า มันเป็นลายที่เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงปู่และตาของเขาสองคน โดยตา (พี่ชายของคุณย่าของไทเลอร์ เป็นคนไทย)
“สองคนนี้ คือคนที่ช่วยวางพื้นฐานของตัวผมขึ้นมา”
ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่ชายสองคนนั้นจะเป็นคนที่มีอิทธิพลกัลชีวิตไทเลอร์มากขนาดนี้ และ มันความเคารพนับถือนั้นเห็นได้ชัดเจนๆ จากรอยสักอีกลายตรงหลังคอของไทเลอร์

“รอยสักอันนี้ ผมทำตั้งแต่ตอนที่ผมกลับมาไทยรอบที่แล้ว ช่วง TBL ที่ได้แชมป์กับไฮเทค ในรูปนั้นแหละ” ไทเลอร์เล่า พร้อมพยักหน้าไปทางแบนเนอร์ในสนาม
“รอยสักที่ผมมีความผูกพันด้วยมากที่สุด ก็คือรอยสักที่หลังคอนี่แหละ มันเป็นอันที่ผมใช้เวลาในการทำนานที่สุด เพราะผมอยากรอจนกว่าจะได้ลายที่มีผมอยากได้จริงๆ แล้วก็ต้องหาคนที่สามารถทำให้ได้อย่างดีอีกด้วย”
“พอเสร็จแล้ว ผมรู้สึกมีความสุขมาก เพราะมันคือปู่กับตาของผม และ สองคนนี้ คือ คนที่วางพื้นฐานชีวิตให้กับผม เวลาที่มีอะไรไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ในชีวิต ทุกคนก็ต้องมีพื้นฐาน หรือ หลักการอะไรซักอย่างที่จะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้ล้มลงไปง่ายๆ การที่จะสามารถผ่านช่วงชีวิตที่ลำบาก โดยที่แก่นแท้ของตัวเองไม่เปลี่ยนแปลง โดยที่ยังสามารถยึดมั่นในหลักการของตัวเอง มันคือสิ่งหนึ่งที่ผมภูมิใจกับตัวเองในช่วงนี้”

พอได้ฟังเขาเล่าเรื่องรอยสักต่างๆ ของตัวเอง ผมก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นถึงความหมายของคำว่า “เลเวลอัพ” ที่ไทเลอร์พูดถึงตอนที่พูดเรื่องการตัดผมของเขา การสนทนากับเขาดูมีประเด็นที่ลึกมากขึ้นจากแต่ก่อนบ้าง แม้ว่าจะยังมีความขี้เล่นตามสไตล์ แต่ไทเลอร์ก็แสดงให้เห็นว่า เขาโตขึ้นมาแล้วอีกระดับหนึ่ง
ถึงแม้จะโตขึ้นมาแล้ว แต่วิถีชีิวตการสักรอยสักของ ไทเลอร์ แลมป์ ก็จะยังคงไปต่อ อย่างน้อยก็ยังไม่คิดจะหยุดเร็วๆ นี้แน่
แทบจะครึ่งชีวิตของไทเลอร์เป็นชีวิตที่มีรอยสักบนร่างกายและก็มีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ตามกาลเวลา และทั้งหมดนั้น มันก็เริ่มต้นจากตัวอักษรสองตัว ง่ายๆ สั้นๆ คือ “TL”
“ผมสักชื่อย่อของตัวเองไว้ที่อกตอนอายุแค่ 15 เองมั้ง แต่เราไม่ต้องคุยเรื่องรอยสักอันนั้นมากก็ได้” ไทเลอร์กล่าวพร้อมหัวเราะลั่น “แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นทั้งชื่อย่อของผม พ่อผม น้องสาวผม มันเป็นตัวแทนของ เหล่า TL ทุกคนในครอบครัวผม”
จากจุดเริ่มต้นตอนนั้น มันก็เริ่มลามไปตามความชอบของเจ้าตัวตามลำดับ

“ผมว่าผมรู้มาตลอดว่าผมอยากมีรอยสักเยอะๆ”
“ตอนที่ผมเริ่ม ผมอยากมีรอยสักตลอด แล้วพอได้ฟังเพลงของ Wiz Khalifa อีกตอนช่วงเรียนไฮสกูล มันก็ยิ่งทำให้ผมอยากมีมากขึ้นเรื่อยๆ อีก”
“แต่ก่อน คนมองว่ารอยสักมันเป็นเรื่องของ คนระดับล่าง สมาชิกแก๊ง อะไรพวกนี้ แต่ตอนนี้มันเป็นยุคสมัยใหม่แล้ว สำหรับผมการสักมันกลายเป็นศิลปะที่น่าหลงใหล พอผมมองไปที่รอยสักแต่ละอัน ได้เห็นลายแต่ละลาย มันทำให้ผมนึกถึงตัวของผม อารมณ์ของผมตอนที่ไปสักลายนั้น ซึ่งความรู้สึกแบบนั้นเป็นสิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับการสักมาก”
ตอนนี้ตั้งแต่ปลายแขนซ้ายยันฝั่งขวา ทั้งหน้าอกและแผ่นหลังของไทเลอร์แน่นไปด้วยรอยสักพอสมควรแล้ว และถึงแม้ว่า นักบาสพ่อลูกสองคนนี้จะยังมีแรงบันดาลใจ และ จินตนาการสำหรับการทำรอยสักอื่นๆ อยู่ แต่เขาก็รู้ตัวว่าต้องเริ่มเตือนตัวเองแล้วให้เพลาๆ ลงมาบ้าง
“พูดเลยว่าผมยังมีไอเดียอีกเยอะ ในหัวของผมตอนนี้เนี่ย ผมมีรอยสักอยู่เต็มตัวแล้ว ผมรู้ว่าผมอยากได้ลายไหนตรงไหน แต่สิ่งที่ต้องทำ และ ทำยากหน่อย คือ การที่จะชะลอตัวเอง เพราะคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่า คุณจะรู้สึกยังไงในอีก 5 ปีต่อไป”
“ช่วงนี้ ผมก็จะคิดอะไรแบบนี้แหละ แบบ ถ้ามันไม่ได้มีความหมายกับชีวิตผมมากๆ จริงๆ ผมก็คงไม่ไปสักตอนนี้ ตอนที่ยังอายุน้อยๆ กันก็จะตัดสินใจไปสักง่ายหน่อย แต่พอเริ่มโตขึ้น คุณก็จะเริ่มเข้าใจ แล เรียนรู้ตัวเองมากขึ้น”

สำหรับผม ตอนนี้ผมถึงจุดที่ผมกำลังจะปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีที่สุดจากข้างในมากกว่า เพราะผมก็มีลูกแล้ว ผมพยายามจะโฟกัสกับตัวตนของภายในตัวเองมากขึ้น เพราะตรงนั้นคือสิ่งที่ผลักดันผมอยู่ช่วงนี้”
สำหรับ ไทเลอร์ แลมป์ ตอนนี้อะไรหลายๆ อย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไป เขากำลังจะมาเล่นกับทีมใหม่ กับเพื่อนร่วมทีมหน้าใหม่ คุมโดยโค้ชคนใหม่ เขาได้เปลี่ยนทรงผมมาเป็นทรงใหม่ แถมยังเพิ่งเพิ่มรอยสักมาใหม่อีกด้วย
และที่สำคัญที่สุดสำหรับไทเลอร์ ก็คือ การเปลี่ยนแปลงของตัวเขาจากภายใน ที่จะคอยพัฒนาตัวเอง คอย “เลเวลอัพ” ตัวเอง ให้เป็นคนที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ให้กับทั้งครอบครัวและสังคม
One thought on “ทรงผมใหม่ รอยสักใหม่ และ ตัวตนใหม่ๆ ของ ไทเลอร์ แลมป์”