สถานที่แต่ละแห่งมีความหมายที่แตกต่างกันออกไปสำหรับคนแต่ละคน
สำหรับตัวผู้เขียนที่เดินทางไปสนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรีเป็นครั้งแรกเพื่อดูการแข่งขัน TPBL ระหว่าง Mono Scorpions และ สโมสรการไฟฟ้าฯ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นกับบรรยากาศใหม่ๆ ที่วงการบาสเกตบอลในประเทศไทยได้กระจายตัวออกไปให้แฟนๆ ได้ดูกันแบบติดขอบสนามมากขึ้น
แต่นั่นมันแค่สำหรับผมคนเดียว
สำหรับการ์ดตัวเก่งของสโมสรการไฟฟ้าฯ “นาด้า” เอกธนัช โตงิ้ว สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรีเป็นสถานที่แห่งความหลังและความภาคภูมิใจของตัวเองที่หนึ่ง
สนามแห่งนี้ เคยเป็นเวทีการแข่งขันบาสเกตบอลในรายการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 31 “จันทบูรเกมส์” เมื่อปี 2015 และ เอกธนัช เป็นหนึ่งในทัพเยาวชนของจังหวัดเชียงใหม่ที่ไปแข่งในรายการแข่งขันครั้งนี้ เจ้าตัวเล่าว่าทีมเชียงใหม่ไปได้ถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนที่จะเจอกับ ทีมกรุงเทพฯ ถึงแม้ว่าจะแพ้ขาดลอย แต่ก็ถือว่าเป็นความทรงจำที่ดี
(ภาพ: Shoot It)
“ความรู้สึกแรกคือประทับใจชาวจันทุบรีมากๆ เพราะทุกแมตช์ที่มีการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นทีมไหนแข่ง อัฒจันทร์จะเต็มตลอด ทำให้รู้ว่าประเทศเรามีคนสนใจบาสเกตบอลอยู่ไม่น้อย และก็เชียร์ตลอดเวลา ทำให้เวลาที่ได้ลงไปเล่นรู้สึกมีกำลังที่จะเล่นและเล่นได้อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้พวกเค้าที่มาดูผิดหวัง”
แม้ว่าจะแพ้ในเกมนัดชิงชนะเลิศกีฬาเยาวชนแห่งชาติปีนั้น แต่ เอกธนัช ได้โชว์ฟอร์มโดดเด่นที่ได้ใจคนดูหลายคน
การ์ดดาวรุ่งทีมชาติไทยชุดลุย Asian Games 2018 เล่าว่า หลังจบการแข่งขันครั้งนั้นมีคนมาขอเสื้อไปอยู่หลายคน ซึ่งด้วยความที่เตรียมเอาเสื้อผ้าอัดใส่กระเป๋ามาอยู่แล้วเพื่อเตรียมเดินทางกลับ จึงได้แจกออกไปบ้าง
การแข่งขันที่จันทบุรีครั้งนั้น เป็นการแข่งขันในรายการกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งสุดของเขา ก่อนที่จะไต่ขึ้นระดับไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ได้เป็นนักกีฬาบาสของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนเป็นนักกีฬาตัวเด่นของทีมสโมสรการไฟฟ้าฯ และติดทีมชาติชุดใหญ่ไปได้ในที่สุด
ช่วงเวลาผ่านไป 4 ปีตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เขาได้มาแข่งที่สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี สนามแห่งความทรงจำที่นี้ ก่อนที่จะได้กลับมาอีกครับ
“การกลับมาเล่นที่นี่อีกหลังจากผ่านไป 4 ปี ตอนแรกๆ รู้สึกตื่นเต้น เพราะอยากรู้ว่าคนที่เคยดูเรา 4 ปีก่อนเค้ายังจะจำเราได้รึเปล่า แล้วเด็กๆที่เราเคยให้เสื้อไปเค้าจะยังคงเดินตามฝันการเล่นบาสอยู่รึเปล่า”
(ภาพ: TPBL)
“ตอนที่กำลังออกมาวอร์มก็รู้สึกประทับใจเหมือนเดิม เพราะชาวจันทบุรียังให้ความสำคัญและสนใจกับบาสเกตบอลเหมือนเดิม ดูจากอัฒจันทร์ที่ยังเต็มและเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่ม”
อาจจะเป็นความรู้สึกดีๆ ตรงนั้นที่ทำให้เขาออกสตาร์ทในเกมแรกนี้ได้อย่างดี ตั้งแต่ได้สัมผัสบอลครั้งแรก เขาก็ยิงสามแต้มลงไปอย่างรวดเร็วภายใน 10 วินาทีตั้งแต่เป่านกหวีดเริ่มการแข่งขัน อีกนาทีกว่าๆ ถัดมาก็ซัดสามแต้มลงไปอีกลูก
เอกธนัช ทำไปอีกสองแต้มในควอเตอร์แรกก่อนที่จะโดน “โค้ชหมู” กฤต อิสริยชีวิน เปลี่ยนตัวออกไปนั่งพักช่วงท้ายควอเตอร์แรก เป็นผลงานการกลับมาเยือนสนามที่นี่ที่ไม่เลว
“ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกอะไร ต้องมีสมาธิกับเกมส์ เพราะว่าต้องป้องกัน [เฟรดดี้ ลิช] แต่พอแข่งเสร็จแล้ว ได้ทบทวนทำให้ความรู้สึกตอนที่ยังเล่น [กีฬาเยาวชนแห่งชาติ] กลับมาอีกครั้ง”
(ภาพ: TPBL)
“มันเป็นความรู้สึกที่คิดจะทำแต้มให้ได้ในทุกโอกาส เพราะเราเป็น scorer ของทีม ซึ่งต่างกับตอนนี้ที่พยายามเป็นตัวทำเกมส์ที่ทำให้เพื่อนเล่นง่ายแทน ทำให้ลืมความรู้สึกที่อยากจะทำแต้มไป”
พอจบเกม การ์ดร่างเพรียวลมวัย 22 ปี ทำไปได้ 9 แต้ม 5 รีบาวด์ แถมด้วยบล็อกอีก 1 ครั้ง ช่วยให้การไฟฟ้าฯ คว้าชัยแรกประเดิมฤดูกาลได้สำเร็จ 72-64
ยิ่งกว่าความดีใจที่ทีมตัวเองสามารถเอาชนะในเกมนี้ได้ ก็คือ กองเชียร์ที่ตามเชียร์มาตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้มาเล่นที่สนามนี้ ก็ยังคงติดตามเขาอยู่ และ มาให้กำลังใจเขาอีกครั้งถึงขอบสนาม
“ตอนแข่งเสร็จก็มีคนที่เราเคยให้เสื้อไปตอนนั้นมาดู 2 คน ซึ่งคนนึงเค้าก็ยังติดตามเราตลอด ส่วนอีกคนเค้าเป็นเจ้าของที่พักที่ได้ไปพักตอนนั้น เค้าก็กลับมาหาเราอีกครั้ง ทำให้รู้สึกดีใจที่อย่างน้อยก็ยังมีคนจำเราได้
“แต่ก็ผิดหวังที่เด็กๆ ตอนนั้นไม่ได้มาดูเราอีก เพราะอยากที่จะรู้ว่าน้องๆ เค้ายังเล่นบาสอยู่มั้ย หรือเราเป็นแรงบันดาลใจให้เค้าเล่นบาสมาให้ถึงจุดเดียวกับเราได้รึป่าว ซึ่งทำให้เราอยากพัฒนาตัวเองให้คนรู้จักมากกว่านี้ เพื่อที่ซักวันจะได้เป็นแรงบันดาลใจของใครบางคนได้บ้าง”
เกมวันนั้นอาจจะไม่มีเด็กที่ออกมาโชว์ตัวกับ เอกธนัช ว่ามีพี่เขาเป็นแรงบันดาลใจในการตามความฝันการเล่นบาส แต่ถ้ายังโชว์ฟอร์มได้แบบนี้ และ พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่า ต้องมีน้องๆ ที่มุ่งมั่นกับการตามรอย “พี่นาด้า” มากขึ้นอีกแน่นอน