เต่าพ่นไฟ! Westbrook เดือดปะทะวาจากับแฟน Utah Jazz หลังอ้างโดนหยามหนัก

เป็นเรื่องอีกแล้ว “เจ้าเต่า” Russell Westbrook หลังจากที่โดนจับได้คากล้องว่ามีการสบถต่อล้อต่อเถียงกับแฟนบาสในเกมที่ไปเยือน Utah Jazz ถึงขั้นบอกว่าพร้อมที่จะ “F*ck up” หรือ พร้อมปะทะ กับแฟนคนดังกล่าว และ ภรรยาของเขาที่มาดูเกมนี้ โดย Westbrook แจงว่า ที่พูดไป เป็นเพียงการตอบสวนกลับหลังจากที่โดนแฟนสองคนนี้กรนด่าแบบ “ไม่ให้เกียรติ” ระหว่างเกม

จังหวะที่ Westbrook สวนด่าแฟน Jazz ได้ถูกโพสและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วตาม Social Media ต่างๆ โดยเป็นช่วงเวลาท้ายควอเตอร์ที่สองตอนที่ Westbrook ออกจากเกมมานั่งพักบริเวณปลายม้านั่ง โดยวีดีโอเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่ Westbrook คุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สนามก่อน

“ผมบอกเลยไอ้สัส ถ้ามันพูดแบบนั้นอีก ก็บวกกันเลยก็ได้ เชื่อได้เลย”

ต่อจากนั้น Westbrook ก็ได้หันไปด่ากับแฟนคนนั้นโดยตรง

“กรูสาบานเลย อย่าคิดว่ากรูล้อเล่น สาบานต่อหน้าพระเจ้าเลย ถ้ามรึงพูดอีกที กรูไปตื๊บแน่ ทั้งมรึงทั้งเมียมรึงนั่นแหละ โดนแม่มทั้งคู่อะ”

“สาบานต่อหน้าทุกสิ่งอย่างในชีวิตของกรูที่กรูรักเลยก็ได้ กรูเอามึงแน่ ไอ้เอี้ย”

ถือว่าเป็นการปะทะวาจาที่ค่อนข้างดุเดือดพอสมควรและเป็นกระแสที่ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนกระแสตอนแรกที่ออกมาก็มีการตำหนิ Westbrook ว่าด้วยการที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเอง อารมณ์แบบว่า นายเป็นตัวอย่างของเยาวชนนะโว้ย มีเด็กๆ เชิดชูนายมากมาย นายจะมาทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแบบนี้ไม่ได้!

แต่แล้วก็มีอีกกระแสต่อเนื่องถามต่อได้อย่างน่าสนใจว่า เฮ้ย คนปกติอยู่ดีๆ มันก็คงไม่ไปข่มขู่ด่าสาดเสียเทเสียแบบนี้หรอก มันต้องมีมูลอะไรบ้างแหละ พร้อมทั้งยกตัวอย่าง การควบคุมอารมณ์ของ Westbrook เมื่อเร็วๆ นี้ในเกมที่เจอกับ Denver Nuggets ที่เจ้าเต่าโดนแฟนเด็กตัวน้อยข้างสนามมาผลักเบาๆ และ สะกิดระหว่างเกม และถึงแม้ว่า Westbrook จะดูหงุดหงิด แต่เขาก็ควบคุมอารมณ์ได้อย่างดี แล้วก็จัดการพูดกับทั้งพ่อและลูก ว่าด้วยการกระทำกิริยาดังกล่าวในการมาดูบาส NBA ว่าไม่เหมาะไม่ควร แถมยังมีการแสดงความเห็นหลังเกมต่อด้วยว่า ทางลีกจะต้องทำอะไรเพื่อควบคุมเหตุการณ์แบบนี้ระหว่างแฟนๆ กับผู้เล่นมากขึ้นนะ ตอนนี้มันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก แต่ถ้ามันมีเหตุการณ์แบบที่แฟนๆ ต่อยตีกับผู้เล่นแบบที่ Detroit เมื่อปี 2003-2004 อีกครั้งก็คงเป็นภาพลักษณ์สำหรับลีกที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก!

ในกรณีเกมที่ Utah ครั้งนี้ Westbrook ดูอารมณ์ฉุนฟิวขาดอย่างผิดปกติ และได้มาเปิดเผยภายหลังท้ายเกมว่าไม่ว่าใคร ถ้าโดนด่าแบบที่เขาโดนก็คงเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่เหมือนกันแหละฟะ ซึ่ง Westbrook บอกว่าแฟนคนนั้นได้บอกว่าให้เขา “Get on your knees like you’re used to” หรือ “คุกเข่าลงไปเหมือนอย่างที่เคยๆ” นั้นแหละ ซึ่งสามารถตีความได้ว่าเป็นการพูดจาทั้งไม่เหมาะสมอย่างรุงแรงอีกทั้งยังเริ่มออกไปทางการ เหยียดผิว ซึ่งอาจจะเหมือนถึงยุคสมัยก่อนที่ทาสผิวสีมีการคุกเข่าอยู่กับพื้นเวลาอยู่ต่อหน้านาย

“สำหรับตัวผมนะ  ผมไม่มาทนอะไรแบบนี้หรอก เวลามีคนมาด่าครอบครัวผม ผมแค่คิดว่า มันต้องมีใครทำอะไรบ้าง มันไม่ใช่ว่าใครมันจะมาดูบาสแล้วทำอะไรก็ได้ พูดอะไรก็ได้ ผมว่ามันไม่แฟร์กับผู้เล่นทั้งหมด ไม่ใช่แค่ผมนะ ไม่แฟร์กับผู้เล่นทุกๆ คนเลย”

“ถ้าจะย้อนเวลากลับไป ผมก็ทำเหมือนเดิม เพราะผมเชื่อในการมีจุดยืนในการปกป้องเกียรติของตัวเอง ของครอบครัวผม ลูกของผม ภรรยาของผม นี่คือจุดยืนของผม ส่วนเรื่องที่บอกว่า จะตื๊บเมียแฟนคนนั้น ผมบอกก่อนเลยว่า ผมไม่เคยลงมีทำร้ายผู้หญิงมาก่อยในชีวิต และ จะไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่นอน ผมไม่เคยทำร้ายใครในครอบครัวของผมเลย แต่พอเขาพูดอะไรแบบนั้น แฟนของเขากลับพูดตาม ด่าผมตามน้ำกันมา มันก็เริ่มต้นแบบนั้นแหละ ผมรู้ว่าทุกคนได้ดูวีดีโอแค่ช่วงท้ายนั่นแหละ แต่พูดเลยว่า วีดีโอช่วงแรกที่โดนตัดออกไปอะ สำคัญกว่าเยอะ และ หยาบคายกว่านี้อีกเยอะ”

อ้าว เรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ มาทรงนี้ ความในใจของ Westbrook เองก็น่าจะตรงใจกับนักบาสหลายๆ คนที่ต้องเจอแฟนๆ บางส่วนที่ไม่น่ารักที่เข้ามาดูเกมแล้วเข้ามาด่าพวกเขาเสียๆ หายๆ

แฟนๆ ที่สุภาพทำตัวน่ารักก็คงมีเยอะ แต่ถ้าเจอแบบนี้บ่อยๆ เข้าในทุกๆ เกม ก็คาดว่ามันจะต้องมีหัวเสียกันบ้าง และ ถ้าไม่มีการแสดงออกถึงความไม่พอใจกันบ้าง ก็อาจจะเป็นปัญหาที่เก็บกดกันต่อไปและเลยเถิดกันอย่างต่อเนื่อง

… แต่เรื่องราวมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรอ?

แฟนคนดังกล่าวนั้น เป็นชายหนุ่มอายุ 45 ปี ชื่อ Shane Keisel ซึ่งทางสื่อหลายสำนักรวมทั้ง ESPN ได้ไปสัมภาษณ์ และเจ้าตัวก็ได้บอกว่า เขาไม่ได้มีการตะโกนด่าอย่างหยาบคายต่อ Westbrook เลยแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งยังบอกด้วยว่า ทั้งหมดมันเริ่มจากการที่แซวกันขำๆ เล็กๆ น้อยๆ ไปมา รวมไปถึงการที่บอกว่าให้ “Ice those knees up!” หรือ “เอาน้ำแข็งแปะเข่าหน่อยโว้ย” ซึ่งอาจจะเป็นวลีเจ้าปัญหาที่ทำให้ฟังกันผิดประเด็นไป แถมเขาก็ยังบอกต่ออีกด้วยว่า แฟนของเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้ด่า Westbrook เลยแม้แต่ครั้งเดียว

“อยู่ดีๆ เขาก็บ้าไปเลย แฟนของผมยังไม่ได้ลุกขึ้นมาด้วยซ้ำ แฟนผมไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ผมก็เข้าใจแหละ มันก็แซวกันไปหยอกกันมา มีอารมณ์กันบ้าง แต่พอเขาเริ่มมาข่มขู่แฟนของผม ผมว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ลูกผู้ชายเขาทำกัน”

“ผมไม่กลัวเขาหรอก ก็มาดิ แต่พอเขาเริ่มข่มขู่ผู้หญิงแล้ว มันทำให้รู้ว่าเขาไม่ใช่ลูกผู้ชาย ผมเลยต้องเปิดโปงเขา”

จึงเป็นต้นเหคุให้ Keisel ส่งวีดีโอที่ถูกถ่ายโดยแฟนอีกคนหนึ่งไปให้เพื่อนที่ทำงานในวงการ Social Media เพราะเขาอยากให้ทุกคนเห็นสิ่งที่ Westbrook พูด

ความเป็นจริงมันจะเป็ยยังไงตอนนี้ก็ยังไม่อาจทราบกันได้ เพราะหลักฐานที่มีอยู่ก็มีเพียงคลิปสั้นๆ อันนั้น แต่ก็มีประเด็นที่น่าสนใจอีกว่า Keisel กับแฟนๆ อีกหลายๆ คนในเกมนี้ ได้รับใบแจ้งเตือนจากทางสนามว่ามีการใช้วาจากีบนักกีฬาอย่างไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกคนจะได้รับการเตือนเพียงหนึ่งครั้ง และ หากมีครั้งต่อไปจะโดนไล่ออกจากสนามไปโดยไม่มีการคืนเงิน

ทาง Jazz ได้มีการออกหมายประกาศว่า ตอนนี้มีการสอบสวนต่อถึงเหตุการณ์ระหว่าง Westbrook และแฟนดังกล่าว อีกทั้งยังเป็นความรับผิดชอบระหว่างทั้งผู้เล่น และ แฟนๆ เอง ที่จะสร้างบรรยากาศการเล่นหรือการรับชมที่ปลอดภัยและให้เกียรติซึ่งกันและกัน และถ้าหากว่ามีการตรวจจับได้ว่าแฟนคนไหนได้มีการละเมิดกฏการปฏิบัติของ NBA และก็จะมีการดำเนินการตามระเบียบที่วางไว้

เพื่อนร่วมทีมของ Westbrook ทั้ง Patrick Patterson และ Raymond Felton ต่างก็ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมทั้งยืนยันสิ่งว่าเขาเองก็ได้ยินเหมือนกันที่ Westbrook มีการกล่าวอ้าง

“ผมก็เข้าใจนะ บางทีคนมันก็พูดอะไรผิดกันไปบ้าง เข้าใจผิดกันไปบ้าง ผมยังไม่ปฏิเสธว่านั่นอาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนี้ แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคือ เมื่อไหร่จะเริ่มมีการดำเนินการในการปกป้องพวกเราบ้างในฐานะผู้เล่น? ผมว่ามันไม่โอเคเลยนะที่ Russ เขาต้องมาคอยเจอคนกรนด่าแบบนี้ทุกๆ เกม เวลาที่ทางนั้นเป็นฝ่ายด่ามาก่อน แล้วด่าแบบหยามๆ หยาบๆ ผมเองก็ได้ยิน ผมนั่งอยู่ตรงนั้น ผมว่ามันไม่ถูกต้อง ผมบอกแค่นั้นแหละ มันไม่ถูกต้อง”

เหตุการณ์นี้เป็นอีกครั้งที่ Westbrook มีปัญหากับแฟนกับ Utah Jazz โดยในรอบเพลย์ออฟปีที่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ Westbrook ไปปัดมือถือทิ้งออกจากมือของแฟนคนหนึ่งภายหลังจบเกม อีกทั้งยังมีการตวาดกลับใส่แฟนคนหนึ่งก่อนช่วงพักครึ่งอีกเช่นกัน

“ผมไม่เคยไปหาเรื่องแฟนๆ นะ มีแต่แฟนๆ มาหาเรื่องผมนี้แหละ แล้วที่ Utah เนี่ยนะ มีแฟนที่พูดอะไรหยาบๆ ที่ไม่ให้เกียรติกันเยอะ พูดถึงลูกบ้าง ภรรยาบ้าง ครอบครัวบ้าง มันไม่ให้เกียรติการแข่งขันเลยจริงๆ” Westbrook พูดไว้จากเหตุการณ์ครั้งเมื่อปีที่แล้ว

ในครั้งนี้ Westbrook ก็ยังคงยืนยันเหมือนเดิม

“ผมว่ามีแฟนๆ ที่ดีๆ ทั่วโลกเลยนะ ที่อยากเข้ามาดูการแข่งขันอย่างสุภาพ และ สนุกกับเกม แต่ก็มีแฟนอีกกลุ่มที่มาดู แล้วก็มาพูดอะไรหบายๆ เกี่ยวกับผม เกี่ยวกับครอบครัวของผม แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมก็ทำสิ่งที่ถูกต้องมาตลอด ผมไม่เคยทำร้ายร้างหายใคร ผมไม่เคยมีปัญหาอะไร ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกันแฟนคนไหน ตลอดเวลาที่เล่นมา 11 ปี ประวัติของผมใสสะอาด

“ใครจะตำหนิอะไรผม ผมรับได้หมดนะ แล้วผมก็ทำมาตลอด แต่ถ้าใครมันเริ่มพูดอะไรแบบไม่ให้เกียรติกันเนี่ย ผมไม่ไหวหรอก บางทีก็มีบ้างที่รับๆ ไปแล้วก็นั่งเฉยๆ แต่วีดีโออันนั้นมันก็แค่สั้นๆ นิดเดียว ตลอดทั้งเกม ตลอดเวลาที่ผมเล่นในลีก โดยเฉพาะที่ Utah เนี่ย มันมีอะไรที่คนคอยพูดใส่ผมแบบ หยาบๆ เสียๆ หายๆ มาตลอดจริงๆ”

Raymond Felton ก็ยังเสริมต่อเนื่องอีกด้วยว่าทางลีกควรต้องเริ่มทำอะไรมากขึ้นเป็นจริงเป็นจัง เพราะสิ่งที่มีคนพูดใส่ Westbrook มันเริ่มสุดจะทนแล้วจริงๆ

“พวกเขาเล็ง Westbrook มาตลอด ซึ่งผมว่ามันไม่โอเค มันไม่โอเคจริงๆ ที่จะบอกให้ผู้ชายคนหนึ่งนั่งคุกเข่าลงไปเพราะ ‘นั่นคือสิ่งที่ทำจนชินแล้ว’ หลังจากนั้นแฟนเขาก็กลับมาพูดซ้ำแบบเดิมอีกครั้ง ผมว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง พอ Westbrook เขาสวนกลับไปแล้วมีคนอัดคลิปไว้ ก็กลายเป้นประเด็นร้อนพูดกันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ก่อนจะถึงเหตุอันนั้น ผมว่าเราคุยกันเรื่องสิ่งที่แฟนคนนั้นเขาพูดกับ Russ ก่อนดีกว่า

“มันไม่ใช่ว่าอยู่ๆ Russ เขาจะไปด่าแฟนๆ โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอยู่แล้ว พวกเขาพูดมาก่อน แล้วเมื่อไหร่มันจะมีจุดที่ปกป้องผู้เล่นอย่างพวกเราบ้างจากเหตุการณ์พวกนี้? แฟนๆ ที่มาดูจะพูดอะไรก็ได้เกี่ยวกับพวกเรา เกี่ยวกับครอบครัวพวกเรา ตะโกนใส่หน้าพวกเรา แบบนี้หรอ? ผมว่ามันไม่แฟร์ มันไม่ถูกต้อง”

แน่นอนว่า ตามสไตล์ความขี้เสือกของชาว NBA Twitter ก็ได้มีการขุดลากไส้ของ Shane Keisel ต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็น Tweet เก่าๆ ที่ด่า Westbrook หรือ Tweet ที่ส่อแววการเหยียดผิว ซึ่งตอนนี้เริ่มสืบหาความจริงได้ยากแล้ว เพราะตัว Keisel ได้เริ่มจัดการลบ Tweet ไปเรียบร้อยบางส่วนอีกทั้งยังปิด Twitter Account ของตัวเองไปเรียบร้อย