ดราม่าช่วงก่อน Trade Deadline จงบังเกิด! Harrison Barnes โดนย้ายทีมระหว่างที่ยังอยู่ในเกม

วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดช่วงเวลาในการเทรดของ NBA มันก็จะค่อนข้างวุ่นวายๆ แบบนี้แหละ!!

ความมันส์และเสน่ห์ของ NBA อย่างหนึ่งคือการที่แต่ละทีมสามารถตกลงแลกตัวผู้เล่นกันได้​โดยมีเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดไว้เพื่อให้การแลกตัวนั้นเป็นไปอย่างเป็นธรรมต่อทั้งสองทีมมากที่สุด และ ทุกๆ ปีก็จะมีกำหนดวันสุดท้ายที่แต่ละทีมสามารถตกลงแลกตัวผู้เล่นกันได้ เรียกว่า Trade Deadline

แทบจะเป็นประเพณีในทุกๆ ปีที่ทีมส่วนใหญ่จะเร่งเครื่องเดินหาโอกาสในการแลกเปลี่ยนผู้เล่นเพื่อเสริมความแกร่งของทีมโดยเฉพาะในช่วง 48 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนหมดเขตที่เรียกได้ว่ามีข่าวให้แฟนๆ ตื่นตาตื่นใจกันตลอด

ในปีนี้ ความโกลาหล ได้เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ยอดเซนเตอร์ของ New Orleans Pelicans ได้ประกาศขอย้ายทีมเพื่อให้หาโอกาสในการชนะที่ดีกว่า ทำให้เป็นที่หมายตาในการจับจองจากทั่วทั้ง NBA

แม้ว่ากระแสข่าวดูเหมือนว่าจะเป็น LA Lakers ที่มีโอกาสในการตกลงแลกตัวได้มากที่สุด โดยเรียกว่า ยื่นข้อเสนอเทหมดหน้าตัก ยกผู้เล่นดาวรุ่ง ดาวร่วง ไปให้ครึ่งทีม แต่ก็ยังไม่ทำให้ Pelicans หวั่นไหวได้อยู่ดี

Lakers จึงได้แต่ทำการเทรดเล็กๆ เบาๆ เอาดาวรุ่งชาว ยูเครน Svi Mykhailiuk ให้กับ Detriot Pistons แลกกับ Reggie Bullock เพื่อเสริมแกร่งวงนอก Bullock นั้นเล่นใน NBA มาแล้ว 6 ฤดูกาลและปีนี้ ทำผลงานได้ดีพอสมควรด้วยสถิติ 12.1 แต้ม 2.5 รีบาวด์ แบะ 2.8 แอสสิสต์ ต่อเกม

กลับกลายเป็นคู่อริร่วมเมือง LA Clippers ซะเอง ที่ได้รับการปรับหน้าตาของทัพขนานใหญ่ก่อน โดยมีการตกลงแลกตัวสตาร์ของทีม Tobias Harris ไปให้กับ Philadelphia 76ers พร้อมกับเพื่อนซี้ของเขา ยักษ์ใหญ่ Boban Marjanovic ซึ่ง ​Harris นี่เรียกได้ว่าเป็นตัวชูโรงของ Clippers ด้วยสถิติ 20.9 แต้ม 7.9 รีบาวด์ และ 2.7 แอสสิสต์ต่อเกม ถือว่าเป็นการเสริมทัพของ Sixers ที่ทำให้กลายเป็นทีมที่มีห้าตัวจริงที่น่ากลัวมากที่สุดในบรรดาทีมฝั่งสายตะวันตกทีมหนึ่ง และ อาจจะมีโอกาสลุ้นแชมป์ในปีนี้เลยก็ได้

ในส่วนของ Clippers ได้ผู้เล่นบางส่วนกลับมา แต่ประเด็นหลักในการเทรดครั้งนี้ อยู่ที่การจัดการเพดานเงินเดือนของทีมอีกทั้งยังได้รับสิทธิในการเลือกผู้เล่นหน้าใหม่ปีต่อๆ ไปใน NBA Draft ของ Sixers มาด้วย

ทีมอื่นๆ ฝั่งตะวันออกก็ไม่นิ่งเฉย โดยมี Chicago Bulls และ Washington Wizards ทำการแลกเปลี่ยน สองดาวรุ่ง Jabari Parker และ Otto Porter Jr.

ทาง Parker นั้นเป็นตัวเลือก Draft อันดับที่ 2 เมื่อปี 2014 ของ Milwakee Bucks ก่อนที่ย้ายไป Bulls เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมานี้ เป็นตัวทำคะแนนที่คงเส้นคงวา ทำเฉลี่ย 18.1 แต้มต่อเกมตลอดช่วงการเล่นมาทั้งหมด 5 ฤดูกาล ส่วนทาง Porter Jr. ก็เป็นตัวเลือก Draft อันดับที่ 3 ในปี 2013 และเล่นกับ Washington Wizards มาตลอด เป็นผู้เล่นที่ทำผลงานได้อย่างรอบด้าน โดยปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 12.6 แต้ม 5.6 รีบาวด์ และ 2.0 แอสสสิสต์ต่อเกม

และ การเทรดที่ได้รับกระแสตอบรับที่มากที่สุดประจำวันเป็นระหว่าง Sacramento Kings ที่ส่งตัง Justin Jackson และ Zach Randolf ไปให้ Dallas Mavericks เพื่อแลกกับ Harrison Barnes

การเทรดนี้ ได้รับความสนใจส่วนหนึ่ง เพราะ Barnes เป็นผู้เล่นที่ทำแต้มอยู่ระกับ 17.7 แต้มต่อเกมให้กับ Dallas Mavericks ในปีนี้ แต่นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็ยกระแสไวรัลอีกด้วย เพราะ ข่าวการเทรดตัวของเขานั้น ได้มีการประกาศในช่วงเวลาที่เจ้าตัวกำลังอยู่ในเกมการแข่งขันในนามทีมเก่าอยู่ด้วย ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเหม่อลอยหลังจากที่รู้ข่าวเลยทันที

รุ่นพี่ในทีมอย่าง Dirk Nowitzki ได้บอกว่า เขามารู้ตัวว่า Barnes โดนเทรดไปแล้ว เมื่อช่วงต้นควอเตอร์ที่ 4 ที่ปกติ Barnes จะลงมาแทนเขา แต่ในเกมนี้โค้ช Rick Carlisle กลับไม่ปล่อยเขาลงมา ทำให้รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น

“เขาเป็นคนที่ดีมากเลยนะ ดีกว่าผมอีกแน่ๆ หลายๆ คนถ้าเจอแบบนี้ คงไม่ทนนั่งอยู่ที่ม้านั่งจนจบเกมหรอก ผมรู้ดีว่า เขามีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ กับคนในทีมหลายๆ คนและคงอยากอยู่ด้วยกันจนจบเกมสุดท้ายนี่แหละ”

กระแสข่าวได้โหมกระหน่ำจนไปสะกิดใจลูกพี่ใหญ่ของ Lakers อย่าง LeBron James ซึ่งได้ออกมาแสดงความเห็นผ่าน Instagram

“ถ้าให้ผมเดา การ [ตัดสินใจเทรดระหว่างเกม] แบบนี้มันถือว่า โอเค เพราะมันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรใช่ปะ? เล่นเทรดกันระหว่างที่เขายังเล่นอยู่ในเกมนี้ โดยที่เขาแทบจะไม่รู้ตัวอะไรเลยแบบนี้น่ะหรอ ผมไม่ได้ต้องการจะโจมตีใครหรือองค์กรไหนเพราะการเทรดครั้งนี้นะ เพราะผมก็เข้าใจดี ว่ามันคือ ธุรกิจ และ แต่ละคนก็แค่ทำในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับทีมของตัวเอง แต่ผมแค่อยากให้มุมมองนี้ มันใช้กับผู้เล่นได้เหมือนกันบ้าง เวลาที่ผู้เล่นคนไหนอยากย้ายทีม หรือ ขอเทรด ทำไมเขาถึงโดนมองว่าเป็นคนที่เห็นแก่ตัวหรือไม่เห็นบุญคุณละ? ทั้งๆ ที่มันคือกรณีเดียวกันที่ผู้เล่นคนนั้นก็แค่ตัดสินใจในสิ่งที่เขามองว่าดีที่สุดสำหรับตัวเอง แต่พอเป็นทีมที่ตัดสินใจปล่อยตัวผู้เล่นคนนี้ หรือ ตัดตัวออกจากทีม มันกลายเป็นสิ่งที่ดีที่พวกเขาแค่ทำสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับทีมเรอะ?! เอาจริงๆ คือ ผมไม่ได้ขัดแข้งอะไรกับการตัดสินปล่อยตัว หรือ อะไรทั้งนั้นนะ แต่ถ้าจะวิจารณ์อะไรก็วิจารณ์ในมาตรฐานเดียวกันหน่อยว้อย!”

ช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงของ Trade Deadline นี้ จะมีการเทรดอะไรเพิ่มเติมกันอีกไหม? แล้วจะไปสะกิดใจสะเทือนขวัญใครกันอีกรึเปล่า รอติดตามกันต่อไป!!!