LeBron James: ชายผู้ถูกเลือก (The Chosen One) – ตอน 6

“จากฮีโร่สู่คนทรยศ”

…อยู่หรือลาจาก…
…จะละทิ้งเมืองและผู้คนที่เค้ารักเพื่อความฝันของตัวเอง หรือ จะละทิ้งความฝันแล้วอยู่เพื่อคนอื่น…
…จะอยู่กับ Cavs ด้วยความเสี่ยงที่จะไร้แหวนแชมป์ตลอดอาชีพการเล่น หรือ ตัดสินใจย้ายทีมเพื่อความฝันของตัวเอง…

ในช่วงหน้าร้อนของปี 2010 มันคงเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียง 26 ปี ในคราบนักบาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของลีก 

ท่ามกลางข่าวลืออันร้อนแรงจนถึงขีดสุด ที่ทุกคนรอการตัดสินใจจากเลอบรอน มีหลายทีมที่มีความพร้อมจะคว้าเลอบรอนมาร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมในตลาดใหญ่อย่าง New York Knicks ที่ได้เทรดตัวผู้เล่นหลายคนออกไปก่อนหน้านี้เพื่อเคลียร์เพดานเงินเดือน และประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าพร้อมจะทุ่มเงินเพื่อดึงตัวเลอบรอนและผู้เล่นคนอื่นมาเสริมทัพ

หรือทีมที่จัดว่าเป็นตัวเต็งและมีความลงตัวเป็นอย่างมากในขณะนั้นอย่าง Chicago Bulls ซึ่งมีทั้ง Derick Rose และ Joakim Noah แผงผู้เล่นที่แข็งแกร่งพอที่จะเข้าชิงแชมป์ NBA และความพร้อมในเพดานเงินเดือนที่มากพอที่จะเซ็นทั้งเลอบรอนและผู้เล่นเสริมคนอื่นได้ 

แม้ว่าเลอบรอนจะแสดงออกอย่างบ่อยครั้งถึงความผูกพันของตัวเขากับคลีฟแลนด์ ในฐานะที่เป็นเมืองและทีมในบ้านเกิดของตัวเอง ช่วงเวลานี้มันแตกต่างกับสมัยที่เลอบรอนถูกดราฟท์เข้ามาร่วมทีม ในเวลานั้นทีมคลีฟแลนด์เป็นผู้มีสิทธิเลือก แต่ในตอนนี้ อำนาจในการตัดสินใจทั้งหมดมันอยู่ที่เลอบรอนแต่เพียงผู้เดียว

ตลาดนักบาส NBA หยุดนิ่งรอการตัดสินใจของเขา ผู้บริหารทีมและผู้เล่นต่างจับตามองว่าเลอบรอนจะเลือกเดินทางไปทางไหน และแฟนบาส

โดยเฉพาะ แฟนของทีมคลีฟแลนด์ ที่เฝ้ารอด้วยทั้งความหวังและความวิตกกังวลกับข่าวลือต่างๆ นาๆ…เลอบรอน คือทุกอย่างของทีมและคือความหวังของคนทั้งเมือง เมืองต้องคำสาปที่ไม่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วกว่า 50 ปี 

จนในที่สุดได้มีการรายงานออกมาว่า เลอบรอน จะประกาศการตัดสินใจของเขาผ่านทางรายการโทรทัศน์

“…I’m going to take my talents to South Beach and join the Miami Heat…”

“ผมจะนำพาพรสวรรค์ของผมไปใช้ที่เซาท์บีชเพื่อเล่นให้กับทีม ไมอามี ฮีท”

นี่คือคำกล่าวอย่างแผ่วเบาเพียงหนึ่งประโยคที่สร้างความสั่นสะเทือนให้ทั้งโลก มันคือคำตอบของเลอบรอน ผ่านทางรายการ “The Decision” ที่ถ่ายทอดสดทาง ESPN รายการที่จัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อประกาศการตัดสินใจของเลอบรอนโดยเฉพาะ 

มันคือการตบหน้าชาวคลีฟแลนด์อย่างจัง…เลอบรอน ในฐานะนักบาสหนึ่งคนมีสิทธิเลือกที่เล่นให้กับทีมใดก็ได้ แต่วิธีการที่เค้าเลือกใช้ในการประกาศการตัดสินใจของเค้า มันคือการใช้สื่อที่จัดว่าแย่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การกีฬาของสหรัฐ 

เลอบรอนมีทางเลือกที่จะบอกทีมคลีฟแลนด์ก่อนเป็นคนแรก เพื่อเป็นการให้เกียรติและเปิดโอกาสให้ทีมสามารถเตรียมตัวกับความเปลี่ยนแปลงได้ แล้วจึงค่อยประกาศการตัดสินใจพร้อมกับคำขอบคุณในการสนับสนุนของแฟนคลีฟแลนด์อย่างนุ่มนวลออกสื่อในเวลาต่อมา

เลอบรอน กลับไม่ทำเช่นนั้น เค้าเลือกที่จะประกาศการย้ายทีมออกมาทางรายการ “The Decision” ด้วยประโยคที่เปรียบเสมือนกับ น้ำมันที่ราดบนกองไฟ 

ถึงแม้ว่า รายการ The Decision จะไม่ไช่ความคิดของเลอบรอน และแม้ว่ามันจะทำขึ้นจากความปราถนาดีที่จะนำรายได้ไปบริจาคให้การกุศล เหตุผลเหล่านี้มันไม่มีค่าพอที่จะทำให้บรรดาแฟนที่กำลังใจสลายหันกลับมารับฟังอีกแล้ว 

ความโกรธแค้นและเกลียดชังมันพุ่งจนถึงขีดสุด แฟนหลายคนร้องไห้ หลายคนแสดงความโกรธแค้นด้วยการนำเสื้อของเลอบรอนมาเผาทิ้ง Dan Gilbert เจ้าของทีมคลีฟแลนด์ เขียนจดหมายประณามเลอบรอนว่าเป็นคนทรยศ และประกาศกร้าวที่ทำทุกอย่างเพื่อคว้าแชมป์ก่อนเลอบรอนให้จงได้ 

และเรื่องมันก็แย่ลงไปกว่านั้น…

เมื่อถึงวันที่ เลอบรอน เข้าร่วมงานเปิดตัวกับทีมใหม่ Miami Heat พร้อมกับ Chris Bosh และ Dwyane Wade ท่ามกลางการต้อนรับและความยินดีของแฟนไมอามี่ พิธีกรในงานได้พูดกับเลอบรอนว่า 

“พวกเราทุกคนรู้ว่า ราชาทั้งสามคนอย่างพวกคุณไม่ได้มาเพื่อคว้าแค่แชมป์เดียว”

“ไม่ไช่แค่หนึ่ง ไม่ไช่สอง ไม่ไช่สาม ไม่ไช่สี่ ไม่ไช่ห้า ไม่ไช่หก ไม่ไช่เจ็ด…และที่ผมพูดออกมา ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ” 

เลอบรอน ตอบด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่ Dwyane Wade หัวเราะอยู่ข้างๆ พร้อมกับเสียงเชียร์ของแฟนที่เข้ามาร่วมงาน

ภาพตัดไปยังชาวเมืองคลีฟแลนด์…ที่เสมือนกับเป็น คนที่เคยรัก เคยทุ่มเท และเคยตั้งความหวังกับคนคนหนึ่งไว้อย่างมากมาย ว่าเค้าคือคนที่จะมาเติมเต็มสิ่งที่เราขาดไป แล้วคนคนนั้นเลือกที่จะเดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย เลือกที่จะประกาศตัดความสัมพันธ์กับเราด้วยการประกาศผ่านทางคนอื่นแทนที่จะเดินมาบอกเราด้วยความเห็นใจ 

ซ้ำร้ายไปกว่านั้นยังต้องทนเห็นภาพของคนคนนั้นที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขในทันทีที่จากเราไป โดยที่เรายังไม่เวลาพอที่เยียวยาใจได้

มันก็ถูกว่า มันอาจจะเป็นความผิดของเราเอง ที่ไม่ได้ตั้งความหวังไว้อย่างสมเหตสมผลตั้งแต่แรก งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา การเจอแล้วลาจากมันคือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่แม้จะเข้าใจถึงเหตผลนั้นแล้วก็ตาม ใครกันละที่จะปฏิเสธได้ว่า ความผิดหวังนั้นที่เลอบรอนสร้างไว้ให้แก่ชาวเมืองคลีฟแลนด์ มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สามารถก้าวผ่านได้ในช่วงข้ามคืน

ภาพแบนเนอร์ขนาดใหญ่ติดเด่นเป็นสง่าบนกำแพงของตึกแห่งหนึ่งในเมืองคลีฟแลนด์ เป็นภาพของฮีโร่ประจำเมืองผู้สวมเสื้อเบอร์ 23 ที่กำลังกางแขนพร้อมกับข้อความที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ประจำตัวระหว่างเขากับแฟน 

“WE ARE ALL WITNESS.”

ภาพใบนั้นกำลังถูกเคลื่อนรื้อออกพร้อมกับเลอบรอนที่กำลังเดินจากไป

---

เมื่อฤดูกาลใหม่เริ่มต้นขึ้น ทีมไมอามี่ ฮีท ถูกจับตามองเป็นพิเศษจากการมากร่วมทีมกันของบิ๊กทรี : James – Wade – Bosh และถูกตั้งความหวังอย่างหนักหน่วงว่าจะได้แชมป์ตั้งปีแรกที่ทั้งสามคนร่วมทีมกัน 

และก็คงไม่มีเกมไหนในฤดูกาลปกติที่ทุกคนจะเฝ้ารอดูไปมากกว่านี้อีกแล้ว กับการมากลับมาเยือนทีมบ้านเกิดที่สนาม Quicken Loans Arena สนามที่ผู้คนเคยมาจับจองที่นั่งกันจนล้นสนาม เคยมาส่งเสียงเชียร์วีรบุรุษที่เติบโตมาจากที่นั่น เพียงแต่ว่าในคราวนี้…วีรบุรษคนนั้นกลับกลายมาเป็นศัตรู มาในฐานะของผู้เล่นไมอามี่

ก่อนการแข่งขัน ทุกคนรู้ดีว่าบรรยากาศในสนามจะต้องเปลี่ยนไป มีคนตั้งคำถามขึ้นมากมาย เลอบรอนจะทำตัวอย่างไร เค้าจะกล้าโยนแป้งขึ้นไปบนฟ้า (Chalk Toss) ก่อนเกมการแข่งขันเหมือนที่เคยทำทุกครั้งยามที่อยู่คลีฟแลนด์หรือไม่ ความโกรธแค้นที่แฟนคลีฟแลนด์มีต่อเลอบรอนจะทำให้บรรยากาศของสนามมันรุนแรงขึ้นแค่ไหน 

มาตรการป้องกันความปลอดภัยขั้นสูงถูกนำมาใช้ในเกมนี้อย่างเข้มงวดที่สุดที่เคยมีมา เครื่องดื่มทุกชนิดอนุญาตให้ขายในแก้วพลาสติกบางเท่านั้น ของแข็งทุกชนิดถูกห้ามนำมาใช้เพื่อป้องกันอันตรายจากการขว้างปาที่อาจเกิดขึ้น 

เมื่อถึงเกมการแข่งขัน เสียงโห่เสียงดังกึกก้องทันทีที่เลอบรอนเดินเข้ามาในสนาม แฟนคลีฟแลนด์ต่างรอวันนี้ วันที่ทุกคนจะมาระเบิดอารมณ์ใส่เลอบรอนตัวเป็นๆ ไม่เคยมีความโกรธแค้นและเดือดดาลระดับนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์การกีฬา สำหรับการที่ นักกีฬาที่ย้ายทีมและกลับมาเยือนยังถิ่นเก่า 

“Quitness (พวกขี้แพ้)” “The Lyin’ King (ราชันย์จอมโกหก)” และข้อความอื่นๆ ที่หยาบคายและตามปกติควรจะถูกแบนห้ามนำมาใช้ในสนามกลับได้รับอนุญาติให้นำมาเข้ามาได้ ทั้งในรูปของป้ายแบนเนอร์และข้อความที่สกรีนลงบนเสื้อยืด เพื่อเป็นการสื่อสารถึงความเคียดแค้นของแฟนคลีพแลนด์ได้เลอบรอนได้รู้

เลอบรอนพยายามทำตัวปกติ เค้ายังคงโยนแป้งขึ้นไปบนฟ้าก่อนเกมเหมือนเดิม แม้ว่าจะถูกโห่อย่างรุนแรง…ทุกครั้งที่เลอบรอนจับบอล เสียงโห่จะยิ่งดังขึ้นเป็นทวีคูณ แฟนคลีฟแลนด์ต้องการล้างแค้น

“เมือง Akron เกลียดคุณ” เสียงเชียร์ประสานกันดังกึกก้องเมื่อเลอบรอนได้ยิงลูกโทษ 

เลอบรอนคือผู้ร้ายของเมือง หากนี่คือพล็อตนิยาย ผู้ร้ายย่อมพ่ายแพ้ไปในที่สุด…แต่ทว่า นี่คือชีวิตจริง

แฟนคลีฟแลนด์ถูกดึงกลับลงมาในโลกแห่งความจริงเมื่อเกมดำเนินไปได้ไม่นาน เมืองต้องคำสาปที่ไร้ซึ่งความสำเร็จมาอย่างยาวนาน และมันก็คงจะเป็นแบบนี้ตลอดไป เพราะนี่มันไม่ไช่นิยาย เสียงโห่เลอบรอนค่อยๆ เงียบลงเมื่อเกมดำเนินไป เลอบรอนเล่นเกมนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย เค้าทำได้ 12 คะแนนตั้งแต่ควอเตอร์แรก และพาทีมไมอามี่นำไปอย่างขาดลอยตั้งแต่จบควอเตอร์สองด้วยคะแนน 59 : 40 

แฟนคลีฟแลนด์ต่างมาเพื่อโห่เลอบรอน แต่กลับต้องมาสะกดตัวเองให้ไม่โห่ทีมของตัวเองแทนเมื่อเกมจบลง คลีฟแลนด์แพ้ไปถึง 90 – 118 เป็นหนึ่งในการแพ้ที่ย่ำแย่ที่สุดของทีมฤดูกาลนั้น เลอบรอน จบเกมไปด้วยการทำ 38 คะแนน พร้อมกับการแสดงให้ทุกคนในคลีฟแลนด์เห็นว่า ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาได้

“ผมเข้าใจความผิดหวังของพวกเขาดี” เลอบรอนกล่าว “ผมเข้าใจดีว่า ทุกอย่างมันอาจจะเปลี่ยนไปสำหรับทั้งสองทีมในฤดูกาลนี้ แต่ผมเลือกที่จะเดินหน้าแล้ว”

---

แม้เสียงโห่ในสนามอาจจะแผ่วลงเมื่อเกมจบ แต่ความโกรธแค้นที่ชาวคลีฟแลนด์มีต่อเลอบรอนมันก็ไม่ได้ลดลงตาม แฟนคลีฟแลนด์ยังคงติดตามดูเลอบรอนอย่างเหนียวแน่น เพียงแต่ว่าพวกเขาเลือกที่เชียร์ฝั่งตรงข้าม ใครก็ได้ที่จะสามารถมาล้มเลอบรอน ทำให้เจ้าคนทรยศคนนั้นต้องพบกับความเจ็บปวดผิดหวังเช่นเดียวกับที่พวกเขารู้สึก

และในที่สุดความฝันของพวกเขามันก็เป็นจริง เมื่อ Miami Heat พ่ายให้แก่ Dallas Mavericks ในรอบ NBA Finals

ภาพของเลอบรอน ที่เดินออกจากสนามเมื่อเกมที่ 6 ในรอบ Finals จบลง มันคือ ความสะใจของแฟนคลีฟแลนด์ และแฟนบาสจำนวนมาก…เลอบรอน เดินคอตก กอดกับเพื่อนร่วมทีมด้วยความผิดหวัง ภาษากายมันบอกว่าเค้าอยากจะออกจากที่แห่งนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

เวลาผ่านมาเพียงไม่กี่เดือน นับจากวันที่เลอบรอนได้ประกาศย้ายทีมทางรายการ The Decision และได้ออกมาพูดว่าจะคว้าแชมป์ให้ได้มากกว่าหนึ่ง มากกว่าสอง…ในงานต้อนรับเขาเข้าทีม เพียงไม่กี่เกมก่อนหน้านี้ที่ เขาและเหวดได้ออกมาไอล้อเลียน Dirk Nowitzki ที่ออกมาแถลงข่าวว่าเป็นไข้หวัด

นักบาสที่เคยเป็นขวัญใจของคนทั้งเมือง ในขณะนี้ต้องแบกรับกับความเกลียดชังและการเย้ยหยันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนถึงขั้นที่ ผู้ว่าของรัฐโอไฮโอในขณะนั้นได้ออกประกาศที่น่าอายที่สุดในการมอบสิทธิให้ คนในองค์กร Dallas Mavericks ได้รับเกียรติเป็น พลเมืองชาวโอไฮโอกิตติมศักดิ์เป็นเวลาหนึ่งวัน

ทุกคนในเมืองที่เคยเชียร์ให้เขาประสบความสำเร็จ กลับกลายมาเฝ้ารอวันที่เลอบรอนจะล้มลง เพื่อตอบสนองต่อความแค้นที่เค้าได้สร้างขึ้นไว้

…จากฐานะ ฮีโร่ ได้กลายไปสู่ คนทรยศอย่างแท้จริง…

อ่านทุกตอนได้ที่นี่:
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4
ตอนที่ 5
ตอนที่ 6