LeBron James: ชายผู้ถูกเลือก (The Chosen One) – ตอน 4

‘คำสาปแห่งคลีฟแลนด์’ – หากพูดถึงเมืองที่ล้มเหลวทางกีฬาที่สุดในอเมริกา ชื่อ คลีฟแลนด์จะปรากฎขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่เสมอ ทีมกีฬาอาชีพของคลีฟแลนด์ไม่ว่าจะเป็น Cleveland Browns (อเมริกันฟุตบอล), Cleveland Indians (เบสบอล), หรือ Cleveland Cavaliers (บาส) ไม่เคยได้แชมป์ใดๆ มากว่า 52 ปี และทำสถิติเป็นเมืองที่ชวดแชมป์ยาวนานที่สุดในอเมริกา คือกว่า 150 ฤดูกาล (เมื่อรวมทุกกีฬา) จัดว่าเป็นเมืองที่โชคร้ายที่สุดหรือถึงขั้นต้องคำสาปทางกีฬาก็ว่าได้

เดือนพฤษภาคม ปี 2003 เลอบรอน เจมส์ มีอายุครบ 18 ปี กำลังจะเรียนจบระดับชั้นมัธยมในอีกไม่กี่สัปดาห์ และเป็นนักบาสที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดที่กำลังจะเข้าร่วมการดราฟท์สู่ NBA นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่และวุ่นวายสำหรับเลอบรอนไม่ไช่น้อย กับการที่ต้องมีเครื่องบินเจ็ทหลายต่อหลายลำมาจอดรับเค้าหลังเลิกเรียนเพื่อไปพบปะกับบรรดาเจ้าของทีมต่างๆ แน่นอนทุกทีมใน NBA สนใจในตัวเลอบรอน เค้าเป็นว่าที่ดราฟท์อันดับหนึ่งแบบไม่ต้องสงสัย

บริษัทรองเท้าชื่อดังต่างก็แย่งชิงที่จะเซ็นสัญญารับเลอบรอนเข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์รองเท้าตัวเอง โดยที่ไม่ต้องรอดูผลงานจริงของเค้าใน NBA หรือแม้กระทั่งรอดูว่าเค้าจะถูกดราฟท์ไปอยู่ในทีมไหนเลยด้วยซ้ำ เลอบรอนตกลงรับข้อเสนอจาก Nike ด้วยการเซ็นสัญญามูลค่ากว่า 90 ล้านเหรียญ โดยปฏิเสธข้อเสนอเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าจาก Reebok และเมื่อรวมกับสัญญาอื่นๆ มูลค่าทั้งหมดขึ้นไปถึงระดับ 100 ล้านเหรียญ ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก เพราะแชมป์ NBA 3 สมัยอย่าง Kobe Bryant เซ็นสัญญากับ Nike ในปีเดียวกันด้วยมูลค่าเพียงประมาณ 45 ล้านเหรียญ

วันที่ 22 พฤษภาคม 2003 เป็นวันตัดสินชะตาว่าใครจะมีสิทธิคว้าตัว เลอบรอน เจมส์ เข้าทีม มันคือ วันจับฉลากคัดเลือกว่าทีมใดจะได้สิทธิดราฟท์อันดับที่เท่าไหร่ ซึ่งโดยปกติการจับฉลากจะทำเป็นเพียงพิธีการคั่นเวลาในช่วงพักครึ่งของการแข่งรอบเพลย์ออฟ แต่ในปีนั้น เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่มีการจัดเป็นรายการพิเศษและออกอากาศในช่วง Prime Time ทางช่อง ABC ตามหลักแล้วทีมที่มีสถิติย่ำแย่ที่สุดจะมีโอกาสดีกว่าในการจับฉลากได้สิทธิดราฟท์อันดับหนึ่ง ในขณะนั้นทีมที่มีสถิติย่ำแย่ที่สุดสองทีมคือ Cleveland Cavaliers และ Denver Nuggests ต่างมีโอกาสประมาณ 22.5% ซึ่งก็ไม่ได้เป็นหลักประกันอะไรนักว่าจะจับฉลากชนะ และทีมที่โอกาสดีสุดก็ไม่ได้ชนะการจับฉลากมาตั้งแต่ปี 1990 แล้ว

ถ้าพูดถึงเรื่องดวงทางกีฬาคงไม่มีใครคิดว่าเมืองต้องคำสาปอย่างคลีฟแลนด์จะจับฉลากได้…แต่เมื่อซองถูกเปิดออกมาแล้ว โลโกทีม Cleveland Cavaliers ได้สิทธิดราฟท์อันดับหนึ่ง…เจ้าของทีม ชาวเมืองคลีฟแลนด์ แฟนบาสเกตบอล และเลอบรอน ทุกคนต่างตะโกนลั่น กระโดดด้วยความดีใจ ทุกคนรู้ทันทีว่า ‘เลอบรอน เจมส์ เด็กจากเมือง Akron รัฐโอไฮโอ กำลังจะมาเล่นให้กับทีมบ้านเกิด Cleveland Cavaliers’

วันที่ 29 ตุลาคม 2003 คือวันที่เลอบรอน จะต้องลงเล่นใน NBA เป็นเกมแรก เค้าเป็นผู้เล่นรุกกี้ที่ถูกจับตามองมากที่สุดในลีกในขณะนั้น หลายคนไม่มั่นใจว่าเลอบรอนจะสามารถแบกรับความคาดหวังและความกดดันระดับนั้นได้มากขนาดไหน นักบาสที่โดดเด่นระดับมัธยมหรือมหาวิทยาลัยไม่ได้ทำผลงานใน NBA ได้ดีเสมอไป อย่างเช่นกรณีของ Kwame Brown เด็กมัธยมคนแรกที่ถูกดราฟท์เข้า NBA ในอันดับหนึ่ง โดย Washington Wizards ที่มี ไมเคิล จอร์แดน เป็นเจ้าของทีม Kwame ทำผลงานได้น่าผิดหวังและถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในการดราฟท์ที่ล้มเหลวที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่มีใครรู้ว่าเด็กมัธยมคนที่สองที่ถูกดราฟท์ในอันดับหนึ่งอย่าง เลอบรอน จะประสบความสำเร็จหรือไม่ หลายคนรวมให้ความเห็นว่า เด็กระดับมัธยมยังไม่โตพอที่จะมาเล่นใน NBA

ในช่วงเกมส์ก่อนเปิดฤดูกาล (preseason) เลอบรอน ก็ทำผลงานไม่ได้ดีนัก เขายิงลงเพียง 8 ลูก จากการยิง 31 ครั้ง ด้วยความแม่นยำแค่ประมาณ 30% มีบางช่วง ทีมตรงข้ามถึงกับประกบเค้าแบบห่างๆ และท้าให้เค้าชู๊ตเลยด้วยซ้ำ

“คุณซ้อมมาเพียงพอรึยัง?” นักเขียนข่าวกีฬาชั้นนำคนหนึ่งกล่าวถึงเลอบรอน หลังจากที่ได้เห็นเลอบรอนซ้อมยิงก่อนการเล่นช่วง preseason

“หลายคนอยากเห็นเค้าล้มเหลว” Kevin Ollie เพื่อนร่วมทีมของเลอบรอนในขณะนั้นกล่าว

“ผมประหม่า” เลอบรอน ให้สัมภาษณ์ย้อนหลังถึงความรู้สึกก่อนที่จะลงเล่นใน NBA เกมแรกของชีวิต “คืนก่อนหน้านั้น ผมนอนไม่หลับเลย และปกติผมจะนอนซักงีบก่อนเวลาลงแข่ง แต่ในวันนั้นผมนอนไม่ได้เลย แม้กระทั่งจะยืดตัวก่อนเล่นก็ทำไม่ได้ มีตากล้องประมาณ 150 คนอยู่บนสนาม ผมไม่รู้ว่าพวกเขาปล่อยให้มันเกิดเหตการณ์แบบนั้นได้อย่างไร และมีกล้องอีกประมาณ 190 ตัวอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อตอนที่ผมมาถึง”

ท่ามกลางความกดดัน ความอิจฉา ความต้องการที่จะเห็นเขาล้มเหลว…เกมแรกใน NBA ของเลอบรอน กลับกลายเป็นหนึ่งในเกมส์ที่น่าประทับใจที่สุดในชีวิตการเล่นของเขา ไม่ไช่ในแง่ของการทำคะแนน หรือ สถิติโดยรวม แต่ในแง่ของการแบกรับความคาดหวังและการตอบรับต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสามารถของเขา โดยเฉพาะควอเตอร์แรก เค้าจบควอเตอร์โดยทำไปถึง 12 คะแนน 3 แอสซิสท์ 2 รีบาวน์ และ 2 สตีล ซึ่งเต็มไปด้วยไฮทไลท์อย่างการดังค์ จ่ายโดยไม่มอง (No-look Pass) เฟดอเวย์ เลอบรอนใช้เวลาเพียงแค่ 12 นาที ในการแสดงให้แฟนบาสทั่วโลกเห็นว่า เค้าคือ “ของจริง”

“ตอนที่พวกเราเข้าไปในสนาม ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเลอบรอนจะทำอะไรได้บ้าง” Paul Silas โค้ชของ Cavs ในขณะนั้นกล่าว “ผมคิดว่าเขาคงทำได้ดี แต่ไม่คิดว่าจะดีขนาดนั้น มันเหลือเชื่อมากจริงๆ”

หลังจากจบเกม เลอบรอนทำไปทั้งหมด 25 คะแนน ยิงลง 12 จาก 20 ครั้ง กับอีก 9 รีบาวน์ 6 แอสซิสต์ และ 4 สตีล ถึงแม้ว่า Cavs จะแพ้ให้แก่ Kings ในวันนั้น แต่สิ่งที่เลอบรอนทำได้ ถือเป็นหนึ่งในเกมเปิดตัวที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีก

เลอบรอน พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเค้าไม่ไช่แค่เด็กมัธยมที่เล่นใน NBA ได้ แต่เค้าคือเด็กมัธยมที่ “สามารถ” สร้างความแตกต่างในลีกได้ทันที เมื่อจบฤดูกาลแรก เลอบรอนทำสถิติฉลี่ยอยู่ที่ 20.9 คะแนน 5.9 แอสซิสท์ และ 5.5 รีบาวน์ ช่วยให้ Cleveland Cavaliers ชนะมากขึ้น 18 เกมส์เมื่อเทียบจากถฤดูกาลที่แล้ว ในฤดูกาลถัดไป เค้านำทีมให้ชนะเกินกว่า 50% ของเกมส์ทั้งหมด ในปีที่สาม เค้าก็สามารถพาทีมเข้ารอบเพลย์ออฟได้ และในปีที่สี่ เลอบรอนก็พาทีมเข้ารอบชิง NBA Finals ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Cleveland Cavaliers แม้สุดท้ายจะพ่ายให้แก่ Spurs อย่างราบคาบ 0 – 4 เกมส์ ในรอบชิงครั้งนั้นก็ตาม แต่มันยากที่จะเชื่อว่า นักบาสที่พึ่งเล่น NBA มาเพียง 4 ปี จะสามารถนำทีมที่มีผู้เล่นหลักอย่าง Sasha Pavlovic, Drew Gooden, Larry Hughes และ Zydrunas Ilgauskas เข้าสู่รอบ NBA Finals ได้

ในเวลาเพียงแค่ 4 ปี เมืองต้องคำสาปอย่างคลีฟแลนด์ก็มีประกายความหวังที่จะคว้าแชมป์แรกในรอบ 50 ปี ขึ้นมา และถ้าจะมีใครซักคนที่ทำลายคำสาปนั้น คนที่เหมาะสมที่สุดก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เด็กที่เกิดและเติบโตจากเมืองนั้น ความรัก ความผูกพัน ความคาดหวัง ระหว่าง เลอบรอน กับ คลีฟแลนด์ มันถูกหล่อหลอมพัฒนามาจนถึงจุดสูงสุด เลอบรอน ไม่ไช่แค่นักบาสคนหนึ่งอีกต่อไป เค้าคือ ตัวแทนแห่งความหวังของชาวคลีฟแลนด์ทุกคน

**อาจจะมีตอนต่อไป ถ้าแอดได้รับกำลังใจอย่างเพียงพอ**

เขียนโดย – Fatfree

อ่านทุกตอนได้ที่นี่:
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4
ตอนที่ 5
ตอนที่ 6


อ้างอิง

http://www.nytimes.com/interactive/2015/06/04/upshot/The-Most-Cursed-Sports-Cities-in-America.html
http://espn.go.com/nba/draft2013/story/_/page/2003-draft-history-1/an-oral-history-2003-lottery-draft
http://espn.go.com/nba/story/_/id/9895279/tenth-anniversary-lebron-smashing-debut
http://bleacherreport.com/articles/2126395-how-kid-from-akron-lebron-james-came-to-rule-the-nba

 

Advertisement

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.