เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ ได้มีการเปิดตัวหนังสือ Mamba Mentality เป็นหนังสือเล่มแรกของ โคบี้ ไบรอันท์ ว่าด้วยหลายๆ เรื่องตลอดชีวิตการเล่นของเขาอย่างละเอียดด้วยคำพูดของเขาเอง (อยากซื้อมาอ่านบ้างและ รอโอกาสที่จะหาซื้อให้ได้อยู่)
เร็วๆ นี้ โคบี้ก็ได้ไปออกรายการ NBA Sound ของ ESPN เพื่อพูดถึงบางส่วนต่างๆ ของหนังสือเล่มนี้ โดยมีการกล่าวถึงสตาร์ใน NBA อีกหลายๆ คน ทั้งอดีต และ ปัจจุบัน พร้อมทั้งได้แชร์ความเห็นของตัวเองในเรื่องต่างๆ
“คุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้แล้ว”
“แน่นอน ผมเป็นเลเกอร์สไปจนวันตายแน่ๆ” โคบี้กล่าวเมื่อถูกถามว่าเขายังผูกพันกับทีมมากขนาดไหน “ผมเคยพูดมาเสมอว่า ถ้าเอามีดมากรีดแขนผม ก็จะเห็นว่าเลือดของผมมันสีม่วงทอง และ สิ่งนี้จะไม่มีวันเปลี่ยน”
“ตอนนี้ เขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเลเกอร์สนี้แล้ว” โคบี้กล่าวถึงเลอบรอน เจมส์ “เพราะฉะนั้น ตอนที่เขาย้ายมาตอนแรกเลย ผมติดต่อเขาไปแล้วก็บอกเขาว่า คุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเลเกอร์สนี้แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้ามีอะไรที่ต้องการให้ช่วย ก็บอกผมมาได้เลย”
พอถามว่า แล้วตอนนี้ เขาได้ติดต่อให้ช่วยอะไรบ้างหรือยัง โคบี้ตอบแบบขำๆ ว่า “ยังเลย ดูท่าทางแล้วเขาไม่น่ามีปัญหาอะไร”
“สิ่งที่ผมเคยบอกเขาไปเรื่องสัญชาตญาณนักล่าในการเล่นคือ ทุกครั้งที่ลงไปเล่น คุณต้องมีเป้าหมายที่จะเป็นที่สุดให้ได้” โคบี้เล่าถึงสิ่งที่เขาเคยคุยกับเลอบรอน “ห้ามมีจังหวะผ่อน ไม่ว่าจะเป็นเวลาแข่งขัน หรือ แม้แต่เวลาซ้อม คุณต้องอยู่ในโหมดพร้อมล่าอยู่เสมอ ทุกๆ เกมคือเกม 7 ทั้งหมด แล้วถ้าคุณซ้อมและแข่งด้วยแนวคิดแบบนี้ เพื่อนร่วมทีมก็จะรับรู้ได้ และ มีแนวคิดร่วมกันได้ แล้วท้ายสุด มันจะกลายเป็นแนวคิดที่เหมือนกันทั้งทีม”
“แต่มันต้องเริ่มจากผู้เล่นในตำแหน่งสูงที่สุดก่อน”
เมื่อกล่าวถึงการที่ได้ปะทะกับ เจมส์ ในสนามแล้ว โคบี้ กล่าวถึงความแตกในรูปแบบการเล่นของทั้งสองคน

“ผมชอบโพสต์อัพ ผมชอบการที่ได้ปะทะในพื้นที่ตรงนั้น ส่วนเจมส์เขาชอบเล่นวงนอกมากกว่า ซึ่งมันน่าสนใจ ด้วยรูปร่างของเขา แต่เขากลับชอบเล่นจากวงนอกมากกว่า ผมชอบเล่นโพสต์ เพราะฉะนั้นเวลาเจอกัน ผมก็จะชอบเข้าไปเล่นข้างในกับเขาเอาไหล่ชนอกกันบ้างเบาๆ แล้ว หมุนหนีไปบ้าง”
“ตอนนี้ พอเขาเริ่มมีอายุมากขึ้น ก็จะเห็นเขาเข้าไปเล่นข้างในมากขึ้น แต่ตอนแรกที่เข้ามาเล่นใน NBA เลยคือ เขาจะไปวาดลวดลายจากข้างนอกมาตลอด”
“ทีมเราไม่ได้พอใจกับแค่แชมป์ดิวิชั่นหรอก”
“มันก็ไม่ใช่ว่ามีพิธีการสืบทอดตำแหน่งตำนานเลเกอร์สกันอย่างจริงๆ จังๆ หรอก” โคบี้กล่าวเมื่อถูกถามถึงสตาร์ในแต่ละยุคของทีม “ตอนแรกก็เป็น เจอรี่ [เวสต์] แล้วต่อมา เมจิก [จอห์นสัน] ก็เข้ามา มันกลายเป็นว่า คุณต้องมีความรับผิดชอบกับทีมนี้มากขึ้น แบกรับความกดดันของการประสบความสำเร็จกับทีมนี้ ซึ่งมันเป็นความกดดันที่หนักอึ้ง ตอนที่ผมเข้ามาต่อกับ แชค ก็สืบทอดต่อไปได้ แล้วก็มาเป็นผมกับ พาว [กาซอล] แล้วตอนนี้ก็เป็ย บรอน คุซ [ไคล์ คุซม่า] กับ ลอนโซ่ [บอล] มันก็ถึงตาของพวกเขาแล้วที่จะสืบทอดความสำเร็จต่อไป”
“มันมีความกดดันสูงนะ แต่นี่คือความเป็นจริงของทีม เลเกอร์ส”
“ทีมเราไม่ได้พอใจกับแค่แชมป์ดิวิชั่นหรอก”
“ตอนนั้น พวกเราแค่ยังไม่มีวัฒิภาวะพอที่บอกให้ทุกคน หุบปากซะ แค่นั้นเอง”
“ผมกับแชคแฮปปี้กันมากนะตอนนี้” โคบี้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ แชคีล โอนีล “ขอแทรกหน่อยว่า ลูกของเขา [ชารีฟ โอนีล] ต้องเป้นนักบาสที่ดีมากแน่ๆ ผมรอวันที่จะได้ร่วมซ้อมแล้วช่วยสอนเขาอยู่”
“แต่สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแชคมันดีอยู่แล้ว แน่นอนว่ามันก็มีจังหวะที่ไม่ดีของมันบ้าง แต่ตลอดช่วงที่ฝืดเคืองกันนั้น พวกเราก็สามารถที่จะคว้าแชมป์มาด้วยกันถึงสามสมัย”

“พอคุณมากเล่นในเมืองอย่าง แอลเอ ทุกอย่างมันถูกจับจ้องอย่างละเอียด หลายๆ เรื่องมันเลยไม่ใช่ประเด็นระหว่างแค่คนสองคน ซึ่งปัญหาระหว่างคนสองคนนั้น มันแก้ได้ด้วยการสนทนาคุยกัน แต่ พอทุกอย่างมันโดนประโคมโดนขยายความไปต่างๆ นานา รู้ตัวอีกที มันกลายเป็นประเด็นที่มีคนอื่นมาเกี่ยวพัน”
“ตอนนั้น พวกเราแค่ยังไม่มีวัฒิภาวะพอที่บอกให้ทุกคน หุบปากซะ แค่นั้นเอง”
“เขาทำให้ทุกอย่างมันดูง่ายเหลือเกิน”
“เขาสอนผมอะไรหลายๆ อย่างเลยนะ” โคบี้กล่าวถึง ไมเคิล จอร์แดน “เขาเป็นอาจารย์ที่ดีมากสำหรับผม เขาเป็นคนที่มีกลยุทธอยู่เสมอ และ ทำอะไรอย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆ การเคลื่อนไหว”
“ไม่มีพื้นที่ไหนที่ถูกใช้อย่างเปล่าประโยชน์ ทุกการเคาะบอลมีเป้าหมาย เขาเป็นคนที่ทำทุกอย่างด้วยความละเอียด และ มันก็เห็นได้ในการเล่นของเขา”
“เขาทำให้ทุกอย่างมันดูง่ายเหลือเกิน ซึ่งนั่นมันเป็นสิ่งที่ทำยากมากๆ”
“ผมเองก็ไม่อยาก Trash Talk ใส่ KG เหมือนกัน”
ว่ากันว่า โคบี้ เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ เควิน การ์เนตต์ หรือ KG จะไม่ Trash Talk ใส่ ทั้งๆ ที่ KG เป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงด้านนี้มาก
“เอาเข้าจริงๆ ที่ KG เขาทำไปทั้งหมดนั้น เป้าหมายของเขาก็เพื่อการเอาชนะ” โคบี้กล่าวในประเด็นนี้ “และ มันก็มีผู้เล่นบางคนที่คุณรู้ว่าไม่ควรจะ Trash Talk ใส่ เพราะมันอาจจะทำให้คุณเล่นลำบากมากขึ้น เช่นเดียวกัน ผมเองก็ไม่อยาก Trash Talk ใส่ KG เหมือนกัน เพราะมันทำให้เขามีความร้องแรง ดุเดือดมากขึ้น พอเป็นแบบนั้นแล้ว เขาก็จะไปกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมเขาอีก แล้วมันก็จะทำให้ทีมเขาเล่นดีขึ้นทั้งทีม”
“คุณต้องเลือกให้เป็นว่าใครที่ Trash Talk ใส่แล้วจะไปรบกวนสมาธิในการเล่นของเขา แล้วก็ใส่ให้หนักเลย”
“ถ้าอยากให้ผมบอกว่า คุณคือคนที่ป้องกันผมได้ดีที่สุดในลีก ก็คุยกันได้”
ช่วงต้นๆ ยุค 2000 มีปีกสายป้องกันของทีม Portland Trailblazers ชื่อว่า รูเบน แพตเตอร์สัน ออกมากล่าวว่า เขาเป็น Kobe Stopper หรือ ผู้เล่นที่หยุดโคบี้ได้
“ตอนนั้นผมก็คิดนะว่า มันเป็นการตัดสินใจทางธุรกิจที่เฉียบขาดมาก” โคบี้กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ “หลังจากที่ได้ยิน ผมยังโทรไปหารูเลย แล้วบอกว่าเขาว่า ถ้าอยากให้ผมบอกว่า คุณคือคนที่ป้องกันผมได้ดีที่สุดในลีก ก็บอกกันได้ ผมยินดีที่จะบอกด้วยซ้ำ! ผมเชื่อเลยว่า มันจะช่วยในการต่อสัญญา หรือ การเซ็นสัญญากับทีมอื่นแน่ๆ แค่คุณบอกมา!”
“แต่ท้ายสุดแล้ว เจอกันครั้งต่อไปตอนนั้น ผมก็เลยต้องอัดทำแต้มใส่กระจาย” โคบี้เล่าอย่างขำขัน “แต่อย่างน้อยก็บอกกันหน่อยก็ได้ จะได้ช่วยๆ กันก่อน”
“ทุกๆ คน ก็จะพูดถึงแต่ วินซ์ นั่น วินซ์ นี่”
“ผมแข่งขันกันวินซ์ [คาร์เตอร์] มาตลอด เขาเป็นรุ่นพี่ของผมหนึ่งปี” โคบี้กล่าวเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับวินซ์ “[การที่เขายังเล่นใน NBA] มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อจริงๆ ผมยังเห็นเขาดั๊งท่าวินโด์มิลล์อยู่เลย ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางร่างกายที่สุดยอดของเขา”

“เราเล่นอยู่ทีม AAU เดียวกันในช่วง ม. ปลาย ซึ่งผมยังจำได้กับความทึ่งที่ได้เห็นว่าเขาลอยตัวจากพื้นได้สูงมากขนาดไหน”
“ตอนนั้นเขาเป็นชูตติ้งการ์ดหมายเลข 1 ของประเทศในรุ่นของเขา และ ผมก็ตามหลังมาเป็นรุ่นน้อง 1 ปี ทุกๆ คน ก็จะพูดถึงแต่ วินซ์ นั่น วินซ์ นี้ ผมก็เลยแบบ เออ อยากลองเชิง อยากแข่งด้วย อยากรู้ว่าจะแน่ซักแค่ไหน”
“เราไม่เคยได้แข่งกันในระดับตอนนั้นก็จริง แต่ก็ได้มาเล่นกันอีกหลายครั้งใน NBA ซึ่งมันก็เป็นโอกาสที่ดีมากๆ”
“เขากลายเป็นคนที่ประกบยากที่สุดตลอดการเล่นอาชีพของผม”
“มันมีอยู่ปีหนึ่ง ที่เขากลับมาหลังจากปิดซีซั่นไป” โคบี้กล่าวถึง เควิน ดูแรนท์ “แล้วเขากลายเป็นคนที่ประกบยากที่สุดตลอดการเล่นอาชีพของผม รองจาก เทรซี่ แมคเกรดี้”
“ตอนที่เขามาเล่นในลีกตอนแรก ท่ายิงของเขาเหมือนจะยิงผ่านหน้าของตัวเอง เพราะฉะนั้น ถ้าผมดันให้เขาข้ามไปทางขวา และ ตัดช่องทางในการข้ามเข้าหาห่วง ผมก็มีโอกาสที่จะหยุดเขาได้มากขึ้น เพราะ มันยากนะ ที่จะข้ามไปทางขวา แล้วหยุดยิงด้วยท่าการยิงของเขา”
“แต่มีปีหนึ่งเขาไปปรับมา แล้วตอนนี้กลายเป็นว่า เขาเริ่มยิงจากเหนือหัวตัวเองมากขึ้น ตอนนี้เขาเลนสามารถข้ามหยุดยิงได้ดีมากขึ้น เขาเริ่มโพสต์มากขึ้น เขาหมุนไปทางซ้ายก็ได้ ขวาก็ได้ แล้วมันก็กลายเป็นปัญหาในการตามประกบที่หนักเลย”
“คุณทำได้ทุกเหมือนเหมือนผมเลยนะ แต่ยิ่งกว่านั้นคือคุณสูง 6’10″”
ก่อนหน้านี้ โคบี้มีการกล่าวถึงสตาร์ของ ออร์แลนโด เมจิก และ ฮุสตัน รอกเกตส์ เทรซี่ แมคเกรดี้ ว่าเป็นคนที่เขาตามประกบยากที่สุดในการเล่นอาชีพของเขา
“ไอ้หมอนี่มันสุดยอดจริง” โคบี้กล่าว “เพราะเขาทำได้ทุกอย่าง ผมคิดว่าผมเคยบอกเขาครั้งนีงนะ ว่า คุณทำได้ทุกอย่างเหมือนผมเลยนะ แต่ยิ่งกว่านั้นคือคุณสูง 6’10” เอาจริงๆ เขาทำได้ทุกอย่างจริงๆ แทบไม่มีจุดอ่อนเลยทั้งเกมรับเกมรุก การที่ต้องตามประกบเขามันคือฝันร้าย”