อดทนเวลาที่ฝนพรำ! เลอบรอน พร้อมรอประสบความสำเร็จกับเลเกอร์ส

ความจริงแล้ว ช่วงปิดซีซั่นที่ผ่านมา เลอบรอน เจมส์ จะเลือกอยู่ต่อที่คลีฟแลนด์ก็ได้ และก็คงไม่มีใครที่จะออกมาต่อต้านหรือวิจารณ์ชายผู้ที่สามารถคว้าแชมป์ให้เมืองคลีฟแลนด์มาได้ แต่เขากลับเลือกที่จะย้ายมาเล่นที่ ลอส แอนจาเลส ซึ่งเป็นการย้ายทีมที่เพิ่มความกดดันมากขึ้น… แต่ถ้าทุกอย่างลงตัว ก็อาจจะเพิ่มความเป็นตำนานให้เลอบรอนได้มากขึ้นอีกระดับ

---

หลังจากที่ทุกคนรอคอยติดตามฟอร์มของเลเกอร์สยุคใหม่ที่นำโดยเลอบรอน เจมส์ ผลที่ออกมากลับดูค่อนข้างน่าเป็นห่วง

เลอเกอร์ส พ่ายแพ้ให้กับ สเปอร์ส ไปอย่างน่าเสียดายในช่วงต่อเวลา เป็นความพ่ายแพ้ครั้งที่สามติดต่อกัน ทำให้สถิติการออกสตาร์ทของยอดทีมจากฮอลีวูดตกหล่นอยู่ที่ 0-3 แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นแล้ว เลอบรอนก็ยังคงย้ำเรื่องความอดทนกับทีมนี้เหมือนเดิม อย่างที่ย้ำมาตลอดตั้งแต่เขาย้ายมา

“ผมไม่ได้ย้ายมาทีมนี้ด้วยความคิดที่ว่า เราจะเป็นโคตรทีมตั้งแต่เกมเปิดสนาม” เจมส์กล่าวกับสื่อข่าวหลังจบเกมที่แพ้สเปอร์สคาสนาม Staples Center “ทั้งหมดนี้ มันมีขั้นมีตอนของมัน ซึ่งผมเข้าใจดี”

แต่ถึงแม้ว่าเลอบรอนจะเข้าใจถึงความอดทนต่อกระบวนการในการสร้างทีมใหม่ขึ้นมา ในเกมที่แพ้สเปอร์สเกมนี้ เขาได้บทเรียนเพิ่มเติมมาว่า แอลเอมันเป็นเมืองคนเดือด ถ้าใจไม่แข็งจริง ก็อาจจะสติแตกได้

ในช่วงท้ายเกม เจมส์ ยิงลูกโทษพลาดไปสองลูกติดๆ กันในช่วงท้ายของเกม ทำให้เลเกอร์สพลาดโอกาสที่จะออกนำไปเป็น 3 แต้ม (ซึ่งสเปอร์สก็พลิกกลับมาชนะได้ในที่สุด) ด้วยความที่เป็นเลอบรอนในชุดม่วงทองของเลเกอร์ส — ไม่สิ แค่ด้วยความที่เป็นเลอบรอน ความผิดพลาดตรงนี้ ทำให้แฟนๆ บาสอดไม่ได้ที่พูดว่า

“ถ้าเป็นโคบี้ ยิงไม่พลาดหรอก”

---

ถ้าหากเลอบรอนจะสติหลุดแล้วสวนกลับต่อคำวิจารณ์ทั้งหลายในช่วงต้นซีซั่นนี้ในทำนองว่า “รอหน่อยได้ไหมฟะ นี่มันเพิ่งจะแข่งไม่กี่เกมเองนะว้อย” ก็คงจะพอเข้าใจได้บ้าง แต่เลอบรอนก็รู้ถึงธรรมชาติของแฟนๆ ที่รักทีมของตัวเองดี

เขาเองก็ผ่านมาแล้วที่ ไมอามี่ กับปีแรกที่พลาดแชมป์… จนกลับมาคว้าแชมป์ได้สองสมัยติด

เขาผ่านมาแล้วกับการที่ทุกคนมองว่าเขาทิ้งเมืองคลีฟแลนด์ไป… ก่อนที่จะกลับมาพาทีมคว้าแชมป์ครั้งประวัติศาสตร์ได้

เลอบรอนเข้าใจดีถึงปฏิกิริยาของแฟนๆ เลเกอร์สตอนนี้ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่เขารู้อยู่แล้วว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการย้ายมาเล่นที่แอลเอ

เขาเป็นคนที่เลือกสิ่งนี้ด้วยตัวเอง หากเขาจะเลือกเล่นต่อที่คลีฟแลนด์ไปจนสิ้นสุดการเล่นอาชีพของเขา เขาก็ยังถือว่าเป็นตำนานได้อยู่ดี แต่เขาเลือกโอกาสที่จะต่อยอดสตอรี่ของตัวเองด้วยการย้ายมาที่แอลเอ เขาเลือกที่จะย้ายมาเล่นกับทีมที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ของความสำเร็จทุกยุคทุกสมัย เขาเลือกที่จะมาเล่นกับทีมที่มีความคาดหวังกับความสำเร็จสูงมากจนทำให้โค้ชคนหนึ่งถูกไล่ออกจากตำแหน่งเพียงแค่หลังการคุมแค่เพียง 5 เกมทั้งที่ชนะ 1 ครั้ง

นี่คือทีมที่มีกลุ่มแฟนที่ไม่ได้เพียงพอใจกับการได้เห็นโคตรสตาร์ใส่ชุดประจำทีมเท่านั้น พวกเขาต้องการมากกว่านั้น พวกเขาต้องการความสำเร็จในระดับสูงสุดเท่านั้น

ใช่ ความกดดันในการเล่นกับทีมเลเกอร์สมันสูงก็จริง แต่หากคุณสามารถก้าวข้ามมันไปได้ คุณก็จะสามารถถูกยกระดับเป็นโคตรตำนานของทีมได้เช่นเดียวกัน

---

“ถ้าเป็นโคบี้ ยิงไม่พลาดหรอก”

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก่อนที่จะมาเล่นกับทีมนี้ มันก็เท่านั้น ถ้าคุณไม่สามารถพาทีมไปสู้ฝั่งฝันได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาก่อน ถ้าสามารถพาเลเกอร์สไปสู้จุดสูงสุดได้ คุณก็จะถูกยกย่องบูชาเป็นเทพเจ้า… แต่ในทางกลับกัน ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเคยเป็นใคร ถ้าคุณไม่ทำให้ทีมดีขึ้น ก็แทบจะเหมือนถูกเชือดทั้งเป็นแล้วปล่อยไว้ข้างทาง

ถ้าไม่เชื่อก็ลองถาม ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ดูก็ได้

ตำนานของเลเกอร์ต่างก็ผ่านบททดสอบความหวังอันหนักอึ้งมาหมดแล้วทุกคน

แม้แต่ เมจิก จอห์นสัน ในปีถัดจากที่เขาพาทีมคว้าแชมป์ทั้งที่ยังเป็นเพียงรุกกี้ ก็โดนโห่ทันที หลังจากที่เขาเป็นชนวนทำให้โค้ช พอล เวสต์เฮด โดนไล่ออกด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่เข้ากัน

หลังจากนั้นเลเกอร์ส ก็จ้าง แพต ไรลี่ เข้ามาคุมทีมแทน ทำให้ปีนั้น เลเกอร์ส คว้าแชมป์ได้อีกครั้ง… ต่อจากนั้นมา เราก็แทบจะไม่เคยได้ยินเรื่องกลุ่มแฟนเลเกอร์สที่ไม่ชอบหรือไม่พอใจ เมจิก จอห์สัน อีกเลย

โคบี้เอง หลังจากช่วงที่เขาร้องขอให้เลเกอร์สเทรดเขาออกไปเมื่อปี 2007 ก็โดนแฟนๆ ร่วมกันโห่เขาในนัดเปิดสนามซีซั่นนั้นอย่างสนั่นหวั่นไหว แต่พอช่วงกลางซีซั่น ทีมได้มีการเทรดเพื่อเอา พาว กาซอล มาร่วมทีม ทำให้สามารถคว้าแชมป์ได้อีกสองครั้งติดต่อกัน

จากเสียงโห่เรื่องการขอย้ายทีม เรื่องราวเล่าขานต่อๆ กันมันกลายเป็นว่าการที่โคบี้ขอย้ายทีมครั้งนี้ เป็นเพียงแผนอันแยบยลในการกระตุ้นให้ทีมมีความตื่นตัวมากขึ้นในการหาสตาร์มาร่วมทีมแทน

“ถ้าเป็นโคบี้ ยิงไม่พลาดหรอก”

ความจริงคือ โคบี้ก็มียิงพลาด… หลายครั้งด้วย

แต่เนื้อความสำคัญคือ การที่เป็นผู้เล่นเลเกอร์สถ้าคุณสามารถอดทนต่อแรงกดดันได้ และ ผลออกมาประสบความสำเร็จ สาวกชาวแอลเอก็พร้อมที่จะให้อภัย ไม่เพียงแค่ให้อภัยเท่านั้น… พวกเขายังพร้อมที่ลืมอะไรต่างๆ ที่เคยทำให้ขัดเคืองใจกับมาแต่ก่อนอีกด้วย

ซึ่งนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ดึงดูด เลอบรอน ให้มาเล่นกับ เลเกอร์ส มากที่สุดก็เป็นไปได้

สำหรับเลอบรอนแล้ว ตลอดอาชีพการเล่นของเขาที่ผ่านมา ผู้คนยังจดจำภาพความผิดพลาดต่างๆ ที่เขาเคยทำมา แม้จะประสบความสำเร็จมาเท่าไหร่ก็ตาม แต่กับเลเกอร์ส ถ้าคุณประสบความสำเร็จในชุดม่วงทองมากเท่าใด คุณก็มีโอกาสที่จะถูกยกขึ้นหิ้งราวกับว่าคุณไม่เคยทำอะไรผิดพลาดมาเลย

ตอนนี้ก็แค่อยู่ที่ตัวเลอบรอนเองแล้วว่า ในช่วง 4 ปี ของสัญญานี้ เขาจะสามารถพาทีมเลเกอร์สไปได้ไกลแค่ไหน เท่านั้นเอง

---

แปลและเรียบเรียงโดย TK
บทความต้นฉบับโดย Seerat Sohi (SB Nation) อ่านได้ที่นี่
ภาพปกบทความโดน Christian Petersen