Dirk Nowitzki หัวใจไม่ไช่เรื่องเงิน

ทุกคนรู้ว่า เดิร์ค โนวิทซ์กี้ คือแชมป์ NBA ผู้เล่นระดับ MVP (ทั้งในฤดูกาลปกติและรอบ Finals) ตำนานแห่งเมืองดัลลัสและนักบาสขวัญใจชาวยุโรปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง เดิร์คเป็นนักกีฬาที่ประพฤติตัวดีทั้งในและนอกสนาม เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน และเป็นหนึ่งในนักบาสที่จงรักภักดีกับทีมมากที่สุด สำหรับนักบาส NBA บาสเกตบอลก็คืออาชีพของพวกเขา บ่อยครั้งที่การตัดสินใจของผู้เล่นขึ้นอยู่กับค่าตอบแทนหรือรายได้…ซึ่งนั่นก็ไม่ไช่เรื่องผิดอะไร…แต่สำหรับ เดิร์ค เค้าแสดงให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจนมาตลอดอาชีพการเล่นว่า เงินไม่ไช่สิ่งสำคัญ เค้าสนใจแค่ ‘บาสเกตบอล’ เท่านั้น

ใครจะเชื่อว่านักบาสระดับ เดิร์ค โนวิทซ์กี้ ‘ไม่มีเอเจนท์’ ‘ไม่มีผู้จัดการธุรกิจประจำตัว’ ไม่สนใจแม้กระทั่งการไปเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าต่างๆ ยกเว้นแค่สัญญารองเท้าบาสกับ Nike เพียงแบรนด์เดียว (และตัวเค้าก็ยังจำกัดการเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมากกับ Nike) เดิร์คเลือกที่จะรับงานนอกหรือเจรจาสัญญาด้วยตนเอง ด้วยระดับความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของเค้า โอกาสในการสร้างรายได้นอกสนามมันมากมายมหาศาล

“มีข้อเสนอเข้ามามากจริงๆ” เดิร์ค เล่าให้นักเขียนจากนิตยสารเยอรมันแห่งหนึ่งฟัง “คุณจะไม่อยากเชื่อเลยว่ามี ผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือกี่บริษัทที่ส่งนาฬิกามาให้ผม แต่ก็เท่านั้นละ ผมยกนาฬิกาทุกเรือนให้คนอื่น ผมพอใจแล้วกับสิ่งที่ผมมี มันบ้าบอเกินไปนะ ถ้าชีวิตคุณมีพร้อมทุกอย่างแล้วแต่ยังจะต้องมาวุ่นวายกับชีวิตด้วยการรับโฆษณาของพวกนั้น? [สำหรับผม] คงไม่ล่ะ แต่ขอบคุณมากนะ”

และการที่เดิร์คพูดว่าพอใจกับสิ่งที่มีแล้วก็คงไม่ไช่เรื่องแปลกอะไรนัก เพราะตลอดอาชีพการเล่น เดิร์คทำรายได้จากค่าเหนื่อยจากการเล่นบาสเพียงอย่างเดียวราวๆ 200 ล้านเหรียญ (ประมาณ 7,000 ล้านบาท) แน่นอน มันเป็นจำนวนเงินมากจนน่าตกใจ จำนวนที่คนส่วนใหญ่ได้แต่ฝันถึง แต่มันจะน่าตกใจยิ่งกว่านั้นถ้ามานั่งนึกว่า เดิร์ค ปฏิเสธโอกาสในการสร้างรายได้ไปอีกจำนวนมากมายมหาศาลเท่าไหร่…ทั้งจากการปฏิเสธรับเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา และ การรับค่าเหนื่อยจาก Dallas Mavericks ที่ต่ำกว่าสิ่งที่เค้าสามารถเรียกได้

นี่คือบทความจาก Jim Pagels ที่เขียนให้กับนิตยสาร Forbes เกี่ยวกับการรับค่าเหนื่อยที่ต่ำกว่าความเป็นจริง และ การปฏิเสธข้อเสนอเป็นจำนวนเงินมหาศาลจากทีมอื่นๆ ทั้งหมดเกิดความจงรักภักดีที่เค้ามีต่อทีม Dallas Mavericks และความรักที่มีต่อบาสเกตบอลของเดิร์คโดยไม่สนใจจะนำมุมมองของธุรกิจมาใช้กับสิ่งที่เค้ารัก

ในปี 2014 เดิร์ค ต่อสัญญากับ Dallas ออกไปอีก 3 ปีด้วยค่าเหนื่อยเพียง 25 ล้านเหรียญ โดยปฏิเสธข้อเสนอขั้นสูงสุด (Max Contract Offers) มูลค่า 97 ล้านเหรียญ กับสัญญา 4 ปีจาก Houston Rockets และ Los Angeles Lakers…เค้าสมัครใจทิ้งเงินค่าเหนื่อยกว่า 65% หรือจำนวน 72 ล้านเหรียญไปกับสายน้ำเพียงเพื่อที่จะได้อยู่กับทีมของเค้าต่อไป หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า นี่คือการยอมลดค่าตัวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีก…และนั่นก็ไม่ไช่ครั้งแรกด้วยที่ เดิร์คยอมรับค่าเหนื่อยต่ำกว่าความเป็นจริงแบบนั้น ในปี 2010 เดิร์คมีสิทธิได้รับสัญญาสูงสุด (Max Contract) กับดัลลัสด้วยมูลค่า 96 ล้านเหรียญ แต่เพื่อช่วยให้ทีมมีเพดานเงินเดือนเหลือพอที่จะรักษาผู้เล่นคนอื่น เดิร์คตกลงเซ็นสัญญากับทีมเพียง 80 ล้านเหรียญ…ผลที่ได้รับคือ…Mavericks สามารถคว้าแชมป์ NBA ได้ในปีแรกหลังจากที่เซ็นสัญญาฉบับนั้น พร้อมกับรางวัล Finals MVP ของเดิร์ค

การที่เดิร์คไม่สนใจและปฏิเสธข้อเสนอที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่องนี่เอง ทำให้เค้าเป็นที่ชื่นชมและถูกมองเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่มีภาพลักษณ์แตกต่างจากคนอื่น เดิร์คไม่เคยพยายามทำตัวให้ข่าวหรือเป็นที่สนใจจากสื่อ ไม่ว่าจะตอนที่เค้าได้แชมป์ NBA หรือตอนที่เค้าต่อสัญญาในแต่ละครั้ง สิ่งเดียวที่เค้าสนใจคือความสำเร็จบนสนามบาสเกตบอล ไม่ไช่การเป็นหน้าตาให้กับบริษัทนาฬิกา

มีบทวิจัยฉบับหนึ่งวิเคราะห์ว่า การที่เดิร์คยิ่งปฏิเสธข้อเสนอต่างๆ ยิ่งทำให้ตัวเค้ามีมูลค่าทางการตลาดมากกว่านักบาสคนอื่นๆ ในลีก โดยเฉพาะในช่วงหลังจากที่เค้าคว้าแชมป์ได้ ผลสำรวจ “ความดึงดูด การเป็นที่รู้จัก และ โอกาสในการได้เซ็นสัญญาทางการตลาด” ของนักกีฬาที่สำรวจโดย The Nielsen/E-Poll แสดงให้เห็นว่า คะแนนของเดิร์คขึ้นมาสูงกว่านักบาสทุกคนที่ยังคงเล่นอยู่ในลีก ณ ขณะนั้น สูงกว่า Tom Brady ซุปเปอร์สตาร์ของกีฬายอดฮิตอย่างอเมริกันฟุตบอลซะอีกด้วยซ้ำ

“ผมเคยได้ยินหลายคนในลีกพูดว่า พวกเราควรเลือกให้ดีว่าจะร่วมธุรกิจกับใคร เพื่อที่จะได้ไม่ไขว้เขวจากเส้นทางนักกีฬาอาชีพที่เป็นอยู่…แต่การที่มีคนบางคน ที่ประสบความสำเร็จขนาดนั้น มีโอกาสที่จะเซ็นสัญญาหรือสร้างรายได้มหาศาลขนาดนั้น แต่กลับปฏิเสธแนวคิดเรื่องการสร้างรายได้ให้มากที่สุด มันเป็นสิ่งพิเศษเฉพาะตัวจริงๆ” Kevin Adler ประธานบริษัทการตลาดแห่งหนึ่งในเมืองชิคาโกกล่าว

ความรักในบาสเกตบอลของเดิร์ค ถูกส่งผ่านไปถึงแฟนบาสเกตบอลของเค้าอยู่เสมอ…นอกสนาม เดิร์คยินดีที่จะพูดคุย ถ่ายรูปหรือแจกลายเซ็นให้กับแฟนบาสที่มีโอกาสได้พบเจอ มีอยู่ครั้งหนึ่งรายการทีวีที่ชื่อว่า Punk’d (รายการจัดฉากวางแผนแกล้งดาราและแอบถ่ายวิดีโอไว้คล้ายกับ สาระแนโชว์ ของบ้านเรา) ส่งเด็กคนหนึ่งไปแกล้งขอลายเซ็นเดิร์คในขณะที่เค้ากำลังกินมื้อค่ำอยู่กับเพื่อน โดยปกติแล้ว มันเป็นสิ่งที่ถือว่าค่อนข้างเสียมารยาทสำหรับการไปรบกวนนักกีฬาหรือดาราระหว่างที่เค้ากำลังทานอาหารหรือทำธุระอยู่ แต่เดิร์คหยุดทานอาหารและเซ็นเสื้อบาสให้กับเด็กคนนั้นด้วยความเต็มใจ แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เด็กคนนั้นไม่ได้แค่ขอให้เดิร์คเซ็นบนเสื้อบาสของเขา เด็กคนนั้นนำของที่ระลึกจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นหมวก ภาพถ่ายมาให้เดิร์คเซ็นต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งเดิร์คก็ยังคงเซ็นให้ต่อไปด้วยความยินดี และที่แสบไปยิ่งกว่านั้น เด็กคนนั้นเริ่มนำของแปลกประหลาดจำนวนมากเต็มถุงที่ไม่เกี่ยวกับทีม Dallas Mavericks แม้แต่น้อย อย่างเช่น เสื้อบาสของ LeBron James หมวกของทีม Lakers หรือแม้กระทั่ง ขอให้เซ็นลงบนเมนูอาหารของร้าน…แน่นอน เดิร์ค งงและเริ่มไม่พอใจ แต่ก็ปฏิเสธไปด้วยความสุภาพ…เด็กคนนั้นออกอาการโมโห สบถด่า เดินจากไป และอีกสักพักก็กลับมาขอร้องเดิร์คให้เซ็นของแปลกประหลาดพวกนั้นอีกครั้ง เดิร์คที่รู้สึกอึดอัดแบบเห็นได้ชัด ได้แต่ตอบว่า ให้รอให้เค้าทานข้าวให้เสร็จก่อนอีก 10 นาทีแล้วจะจัดการให้…ในขณะนั้น เพื่อนของเดิร์คถึงกับประหลาดใจว่า เค้าจะยอมเซ็นของพวกนั้นจริงๆ? จนในที่สุดเมื่อเดิร์คพลิกเมนูอาหารนั้นขึ้นมา จึงเห็นข้อความเฉลยว่า เค้ากำลังถูกแกล้งออกรายการทีวีอยู่ เค้าได้แต่ยิ้มและหัวเราะออกมาเสียงดัง

ตั้งแต่เข้าลีกจนถึงวันนี้…วันที่ชื่อของเดิร์ครอวันจารึกเข้าสู่หอเกียรติยศ (Hall of Fame) อย่างสง่างาม เดิร์คก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม ชายหนุ่มอารมณ์ดี สำเนียงเยอรมัน กับผมยาวๆ ยุ่งๆ พันกันไปมาในสนาม…แม้เค้าจะประสบความสำเร็จมากมายเพียงใด และมีโอกาสสร้างรายได้จากชื่อเสียงได้มากเพียงใด สิ่งเดียวที่เค้าต้องการก็ยังคงเป็น ‘การได้อยู่กับบาสเกตบอล’ ที่เค้ารักตลอดไป

Advertisement

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.