ไม่ได้เจอกันมาตั้งนาน
For English, read here.
ครั้งสุดท้ายที่สองทีมนี้ เจอกัน คือ เกมที่สองของรอบชิงชนะเลิศ ABL
ทีมดรากอนส์กำลังหลังชนฝาจากการที่แพ้เกมแรกไปในบ้านตัวเอง
ท้ายที่สุด ไฮเทค ก็ชนะไปในเกมนี้ และ คว้าแชมป์มาได้ ในที่สุด
ตอนนี้ เวลาก็ล่วงเลยมา 1 ปี 1 เดือน กับอีก 2 วันพอดิบพอดี โดยที่ ลีกก็เล่นกันไปแล้วเกือบครึ่งฤดูกาล ก่อนที่สองทีมนี้จะโคจรกลับมาเจอกันอีกรอบ
เกมวันพรุ่งนี้ จะเป็นการพบกันอีกครั้ง ของคู่ชิงปีที่แล้ว!!!
จริงๆ แล้ว เกมนี้ ยังอาจจะถือได้ว่าเป็น การพรีวิว รอบชิงของปีนี้ได้ด้วย (ผมยังไม่ลืมทีมสลิงเกอร์สหรอก แต่ก็ต้องยอมรับนะว่า ไฮเทค เจอ ดรากอนส์ ในรอบชิง ก็เป็นสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้สูงอยู่) ตอนนี้ ไฮเทค เป็นที่หนึ่งในตารางด้วยสถิติชนะ 6 แพ้ 1 และ ดรากอนส์ก็ตามหลังอยู่ไม่ไกล ชนะ 5 แพ้ 2
ปีนี้ ไฮเทค ไม่มี เจอริค กานยาด้า, แพทริก คาบาฮุก, “คานู” วัฒนา สุทธิสินธุ์, และ “บาส” มณเฑียร วงศ์สว่างธรรม ก็จริง แต่การที่ได้เสริมทัพเอา เฟรดดี้ โกล์ดสตีน และ ไทเลอร์ แลมบ์ ไปก็ช่วยทดแทนผลงาน ของสี่คนดังกล่าวได้มากพอสมควร
ตอนนี้ เฟรดดี้ ก็ถือได้ว่าเป็นการ์ดจ่ายที่ดีที่สุดคนหนึ่งใน ABL ด้วยสถิติ 17.3 แต้ม, 3.7 รีบาวด์ และ 5.0 แอสสิสต์ต่อเกม ยังมีแถมพ่วง 2.3 สตีลต่อเกมอีก ทำให้เห็นภาพค่อนข้างชัดเจน ว่าทำไม โค้ชฝั่งตรงข้ามต้องมานั่งปวดหัวกับ การ์ดสายแพรวพราวคนนี้
ใน ขณะ ที่ เฟรดดี้ เป็นการ์ดทำแต้มแบบ อัลเลน ไอเวอร์สัน ทีม เคแอล ดรากอนส์ ก็มีตัวที่จะต่อกรได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ด้วยวิถีที่ค่อนข้างจะต่างกันลิบลับ การ์ดจ่ายของ เคแอล ดรากอนส์ คือ เจสัน บริกแมน ที่กำลังเฉลี่ย 10.7 แต้ม 9.1 แอสสิสต์ 2.3 สตีล และ 6.6 รีบาวด์ต่อเกม
โกล์ดสตีน เป็นคนที่ไว และ มีความสามารถทางร่างกายที่เว่อร์มาก ทำแต้มได้เป็นกระบุงในช่วงเวลาสั้นๆ ในทางกลับกัน บริกแมน ไม่ใช่คนที่มีร่างกายที่ดีขนาดนั้น ไม่ได้โดดสูงแบบเฟรดดี้ แต่เป็นคนที่จ่ายบอลดีมาก และ มีทัศนวิสัย ที่มองได้ทั่วสนาม
มองๆ แล้วก็ตลกดี เหมือนว่า เจอริค กานยาด้า (การ์ดจ่ายของ ไฮเทค ปีที่แล้ว) สลับทีมกับ เอเวอรี่ ชาเรอร์ (การ์ดจ่ายของ ดรากอนส์ ปีที่แล้ว)
มันต้องเป็นการแข่งขันที่สนุกแน่ๆ ที่ได้เห็นสองทีมที่เล่นต่างกันโดยสิ้นเชิง มาชนกัน ไฮเทค เป็นทีมที่เน้นการตั้งรับอย่างเหนียวแน่นก่อน ในขณะที่ ดรากอนส์ เน้นการบุกแบบบ้าคลั่ง การที่สองทีมนี้มี “ลักษณะ” ที่ต่างกันอย่างชัดเจนแบบนี้ ทำให้ ดาร์บี้แมตช์ นี้ น่าสนใจมากขชึ้นหลายเท่า
นี่ยังไม่ได้ กล่าวถึง คู่ ไทเลอร์ แลมบ์-แมทธิว ไรท์ หรือ คู่ สตีฟ โธมัส-เรจจี้ จอห์นสัน เลยนะเนี่ย!!!
เกมนี้ น่าจะมันส์ระดับ 5 ดาวจริงๆ
ตัวแปรสำคัญ: หว่อง ยี ฮาว/ณกรณ์ ใจสนุก
ผมคิดว่า แมทธิว ไรท์ ได้เปรียบ ไทเลอร์ แลมบ์นิดหน่อย แต่ไฮเทค มี วุฒิพงษ์ ดาโสม คู่ตรงตำแหน่งปีกนี้ เลยหักล้างกันพอได้ คู่ยักษ์ใหญ่ข้างใน ผมให้ไฮเทคได้เปรียบนิดๆ ด้วยความเก๋าทางประสบการณ์
เพราะฉะนั้น ตัวแปรในเกมนี้ ผมมองว่า จะมาตกที่ผู้เล่นหน้าใหม่ไฟแรงสองคนของทีม ซึ่งทั้งคู่มีศักยภาพในการยิงลูกสามแต้มที่ดี (ยี ฮาว ยิงไปแล้ว 7 เม็ด ส่วน ณกรณ์ ยิงไปแล้ว 6 เม็ด) ผมว่า ในเกมนี้ ต้องมีซักคน ที่ได้ยิงลูกยิงที่เปลี่ยนจังหวะของเกมแน่ๆ
ฟันธง
เรื่องความเป็นเจ้าบ้านก็เป็นอะไรที่อ้างอิงยากสำหรับเกมนี้ ด้วยประวัติการแข่งขันน้อยนิดที่ผมมี จากการแข่งขันสองปี ทีมดรากอนส์เล่นได้ยอดเยี่ยมมาก ในสนาม MABA Stadium จากการแข่งทั้งหมด 16 ครั้ง พวกเขามีสถิติ ชนะ 14 แพ้ 2!!!!
แต่สิ่งที่ทำให้มันมาอ้างอิงได้ยาก คือ 2 เกมที่แพ้นั้น เป็นเกมที่แพ้ให้กับ ไฮเทค ทั้งนั้น…
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ฟอร์มของดรากอนส์ กำลังร้อนแรงมาจากเกมที่แล้ว ด้วยการยิงรัวใส่เป็นไฟถึง 110 แต้ม ในขณะที่ ไฮเทค บุกได้อย่างน่าอึดอัด และทำไปได้เพียง 74 แต้ม ในเกมที่ชนะไซ่ง่อน ฮีตที่ผ่านมา
ผมมองแล้ว ดรากอนส์ น่าจะหนีไปได้อย่างหวุดหวิด ด้วยชัยชนะ 3 แต้ม
รายละเอียดการแข่งขัน
ช่องโทรทัศน์ไทย: ไม่มี
การถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เนต: ช่อง Youtube ของ ASEAN Basketball League หรือ abl.mthai.com
สนามแข่งขัย: สนาม MABA Stadium
เวลา: 13.30 น.
Feature Picture from Kuk Onvisa Thewphaingarm
Tones and Definition 