ทีมไซ่ง่อน ฮีต นี่ รู้ใจจริงๆ ว่า ต้องทำยังไง ให้เกมตื่นเต้น
For English, read here.
เวลาดูการแข่งขัน ASEAN Basketball League ที่สนาม CIS Arena มันเป็นบรรยากาศที่แตกต่างไปจากที่อื่นมากจริงๆ เพราะคนดู และ กองเชียร์ทุกคนต่างใส่อารมณ์กันเต็มที่มาก เวลาที่ได้เห็น ไซ่ง่อน ฮีต เล่นที่บ้านทีไร นอกจากว่าตัวทีมจะได้รับพลังงานจากคนดูแล้ว คนดู ก็ได้รับพลังงานจากการเล่นของทีมตัวเองเหมือนกัน
รายละเอียดการแข่งขัน
ผลการแข่งขัน: ไซง่อน ฮีต 70 – ไฮเทค บางกอก ซิตี้ 74
เทปบันทึกการแข่งขัน: https://www.youtube.com/watch?v=4D0pEIky0ps
สถิติ: http://www.fibalivestats.com/u/abl/224992/
ลำดับเหตุการณ์ในเกมนี้ จริงๆ แล้วก็ไม่ต่างจากเกมที่ทั้งสองทีมเจอกันในไทยเท่าไหร่นักหรอก ตอนแรก ไฮเทคก็ดูเหมือนว่าจะออกตัวแรงชนะขาดไปแต่เนิ่นๆ
ในเกมที่ไทย ไฮเทค ทิ้งห่างออกไปถึง 12 แต้ม
ในเกมนี้ ที่แข่งที่ไซ่ง่อน ไฮเทค นำออกไปถึง 16 แต้มในช่วงควอเตอร์ที่สาม
และในการแข่งขันทั้งสองครั้ง ไซ่ง่อน ฮีต บุกกลับมาอย่างรุนแรง จนขึ้นนำ 1 แต้ม
เช่นเดียวกัน ในทั้งสองเกม ไฮเทค บางกอก ซิตี้ โชว์ความเก๋า ของตัวเองออกมา และกัดฟัน ยื้อจนชนะไปได้
แต่ในคราวนี้ การปิดบัญชี สำหรับไฮเทค กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะมันไม่มีเกมไหนที่ง่ายหรอก เมื่อได้มาเล่นที่ CIS Arena
สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ
- ปล่อยตัว คริส ชาร์ลส์
มาเริ่มต้นกับ กระแส ตอบรับ ใน Social Media ที่ผมบังเอิญ ไปเจอมาดีกว่า (เพราะว่า ผมว่างมากกกกก)
ก็ตามที่เห็นนั่นแหละ มีแฟนคนหนึ่ง เสนอ มาว่า ให้ ไฮเทค ปล่อยตัว คริส ชาร์ลส์
…พอได้สงบสติอารมณ์ซักหน่อย ก็ หายใจเข้าลึกๆ ได้มาลองพิจารณาคำแนะนำอันนี้อย่างจริงๆ จังๆ
ตอนนี้ คริส ชาร์ลส์ ยิงลูกโทษไป 39 ครั้ง พลาดไป 22 ครั้ง เป็นอัตราการยิงลง 43.6% เหมือนเป็นการทิ้งแต้มไปเปล่าๆ ปลี้ๆ 22 แต้ม
เรื่องปัญหาการยิงลูกโทษ ถือว่าเป็นประเด็นที่ฟังขึ้นอยู่ ปีที่แล้ว คริส ชาร์ลส์ ยิงไป 64.4% และ การที่อัตราการยิงลงตกลงมามากขนาดนี้ ก็คงน่าเป็นห่วงบ้างแหละ ในบรรดาผู้เล่น World Import ทั้งหมด ชาร์ลส์ ยิงแย่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3
แต่ถ้ามองจากมุมมองนี้เท่านั้น มันทำให้สถานการณ์ของ แอนโธนี่ แมคเคลน (41.1%) และ ควินซี่ โอโคลี่ (42.9%) แลดูไม่ค่อยปลอดภัยขึ้นมาทันที
มันต้องมีอย่างอื่นมาพิจารณาด้วยสิ
มาดูดีกว่า ว่า ชาร์ลส์ให้อะไรกับทีมได้บ้าง เพื่อทดแทนส่วนที่หายไปจากการยิงลูกโทษ การยิง field goal 47.4% ก็ไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีมาก อยู่ระดับกลางๆ แต่มันก็ยังดีกว่าปีที่แล้ว (44.4%) อีกทั้งยังทำให้มีแต้ม 17.1 แต้มต่อเกม ถือว่าไม่เลว
ในบรรดาผู้เล่น World Import:
อันดับ 2 รีบาวด์ต่อเกม (14.4)
อันดับ 4 อัตราการรีบาวด์ (18.2%)
อันดับ 2 แอสสิสต์ต่อเกม (2.6)
อันดับ 3 อัตราการแอสสิสต์ (13.6%)
และที่สำคัญที่สุด คือ

อันดับ 1 บล็อกต่อเกม (4.29)
อันดับ 1 อัตราการบล็อก(8.9%)
ผมก็เข้าใจนะ ถ้าหากว่า แฟนๆ เริ่มหงุดหงิดกับการยิงลูกโทษของ คริส ผมเองก็หงุดหงิด ผมรู้ว่า คริส เองก็หงุดหงิดเหมือนกัน แต่การที่จะเปลี่ยนเอานักบาสเจ้าของรางวัล ผู้เล่น World Import ทรงคุณค่าสองสมัยติด ที่เป็นแกนหลักของแผงป้องกันทิ้ง เพียงเพราะการยิงลูกโทษ…อาจจะจินตนาการเกินเอื้อมไปหน่อย และ นี่ยังไม่ได้พิจารณาว่า ไฮเทค จะหาตัวแทนที่จะเล่นได้ดีเท่า ชาร์ลส์ ได้รึเปล่า ในช่วงเวลานี้
ทุกคน ก็ย่อมมีความเห็นของตัวเอง และผมก็เคารพจุดนี้ แต่หวังว่า สิ่งที่ผมพยายามสื่อออกไป อาจจะช่วยให้คลายความกังวลเรื่องคริส ชาร์ส์ ไปได้บ้าง
- สเตฟาน “Cà Ri” หงวน

กว่าที่ สเตฟาน หงวน (หรือ หงวน ต๊วน ตู) จะได้ลงเล่นใน ABL ก็ใช้เวลานานน่าดู และมันก็เกือบเป็นการเปิดตัวที่สวยงามราวกับวาดเขียนไว้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สเตฟานมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่หลัง และ โค้ช โทนี่ ก็ปล่อยเขาลงมาตอนเหลือเวลา 2 นาที 32 วินาที ในควอเตอร์ แรก
แฟนๆ ต่างก็ส่งเสียงเชียร์กรี๊ดกร๊าดกันสนั่นอาคาร
และมันก็เป็นเสียเชียร์ที่สมน้ำสมเนื้อกับผลงานที่เขาทำไปได้ เกมบุกของฮีต ดูมีความหลากหลาย และ มีมิติมากขึ้นเมื่อเขาลงไป ความยาวของแขน การครองบอล การจ่ายบอล และ ความฉลาดในการเล่นของเขา ทำให้ ฮีต ได้แต้มมาง่ายๆ หลายลูก
แต่มันก็ไม่ได้มีแต่สิ่งวที่สวยงาม สำหรับการเปิดตัวของหนุ่มเหงียน ที่โตที่สวีเดน คนนี้ เขาไม่สามารถที่จะป้องกัน เฟรดดี้ โกล์ดสตีน ได้อย่างเต็มที่ และ ก็มีหลายๆ ครั้งที่ปล่อยหลุดไปแบบง่ายๆ เหมือนกัน
ถ้า หงวน กลับมาเล่นได้ 100% เมื่อไหร่ และเล่นได้มากกว่า 17 นาที ฮีต น่าจะเป็นทีมที่น่ากลัวมาก
- Run HBC
สำหรับใครที่ไม่รู้จริงๆ “Run HBC” เป็นการเลียนแบบชื่อ “Run TMC” ที่เป็นสามสหายทีม Golden State Warriors คือ ทิม ฮาร์ดอะเวย์, คริส มัลลินส์, และ มิทช์ ริชมอนด์
ส่วน HBC ก็ย่อมาจาก Hitech Bangkok City
…ช่างมันเถอะ
ผมโคตรประทับใจกับการบุกสวนกลับเร็ว ของ ไฮเทค บางกอก ซิตี้ ในเกมนี้ มันราวกับว่า ทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะดันบอลขึ้นให้เร็ว เวลาที่ได้บอลมา และ ถ้าเห็นว่ามีความได้เปรียบ ก็จะโจมตีเข้าไปหาที่ห่วงทันที
การที่จะป้องกัน เฟรดดี้ ตอนที่เขาวิ่งมาเต็มสูบเป็นอะไรที่ทำได้ยาก
การป้องกันลูกขว้างไกล ของ สตีฟ โธมัส เป็นอะไรที่ทำได้ยาก
การป้องกัน คริส ชาร์ลส์ที่วิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพื่อรอทำแต้มจากการวิ่งสอด เป็นอะไรที่ทำได้ยากเช่นกัน
ทีมนี้ อาจจะดูเป็นทีมที่เหมาะกับการเซทครึ่งสนาม แต่ในเกมสวนกลับเร็ว ไฮเทคก็เป็นทีมที่ทำได้ดีมากทีมหนึ่ง
- เดวิด อาร์โนล์ด เซียน Pick & Roll

การดั๊งของ เลนนี่ แดเนียล หรือ การยิงจังหวะสำคัญๆ ของ โมเสส มอร์แกน อาจจะกลบสิ่งที่น่ากลัวที่สุด สำหรับทีมไซ่ง่อน ฮีต ก็ได้ ซึ่งมันคือ การเล่น Pick & Roll กับ เดวิด อาร์โนล์ด
อาร์โนล์ดเป็นคนที่เพียบพร้อมทางทักษะการครองบอล ทักษะการยิง ความแข็งแกร่ง และ ทัศนวิศัย ในเกม ทำให้เขาเป็นคนที่ป้องกันยาก ในสถานการณ์ Pick & Roll
ถ้าเลือกที่จะสอดไปใต้ตัวสกรีน ก็คงโดนยิงระยะไกลใส่ ถ้าตัวป้องกัน ออกมาปิดทางข้ามของ อาร์โนล์ด ช้า ก็คงโดนข้ามเข้าถึงห่วง ถ้าหาตัวป้องกันมาสอดการข้าม อาร์โนล์ดก็มักจะฉลาดพอที่จะคายบอลออกไป
ถ้าเขาได้การสกรีนที่สมบูรณ์แบบ ก็แทบจะเป็นการเลือกทำแต้มของฝ่ายบุกเลย
ดูเหมือนว่าไซ่ง่อน ฮีต ยังไม่สำเร็จวิชานี้ จนสุด เราเลยเห็นบางจัวหวะ ที่ อาร์โนล์ดสลัดการป้องกันไม่หลุด
แต่ถึงอย่างไร มันก็เป็นแผนที่มีไว้ใช้ในมือได้ตลอดทั้งปี
- โดดเด่นเป็นประกาย

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีม ไฮเทค บางกอก ซิตี้ ออกนำไป มากพอสมควรในช่วงแรก มากจากการเล่นของการ์ดจ่ายจิ๋วแต่แจ๋ว เฟรดดี้ โกล์ดสตีน
อาจจะไม่ตกตะลึงสะพรึงกลัวกับประสิทธิภาพการทำแต้มเท่าไหร่นัก (21 แต้มจากการยิง 22 ครั้ง นี่เริ่มได่ค่อยดีเท่าไหร่ละ) แต่ เฟรดดี้ก็ทำได้ดีในการจัดจังหวะให้เพื่อนร่วมทีม (7 แอสสิสต์) อีกทั้งยังเสียเทิร์นโอเวอร์แค่ 1 ครั้งเท่านั้น บางที เขาอาจจะมีจังหวะยิงที่ทำให้ต้องกุมขมับ แต่นั่นคือสิ่งที่คุณได้จากชายที่ชื่อ เฟรดดี้ โกล์ดสตีน
ทุกๆ ครั้งที่เขายิงแบบลั่นๆ ก็จะมีบางจังหวะแบบลูกนี้
ที่เป็นลูกสามแต้มที่ตัดจังหวะเกมที่กำลังไหลมาทางไซ่ง่อน ฮีต ทำเอากองเชียร์ถอนหายใจแรงทันที
เอาไฮไลท์ เต็มๆ ไปดูเลย แฟนๆ ไฮเทค บางกอก ซิตี้
- ตีตื้นโดยสมบูรณ์แบบ
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ไฮเทคออกนำไป 16 แต้ม ในช่วงควอเตอร์ที่ 3 ทางฮีต ก็ค่อยๆ กัดแทะมาตลอด จาก 9 แต้มตอนจบควอเตอร์สาม ด้วยลูกยิงสามแต้มก่อนหมดเวลาของ โมเสส มอร์แกน จนมาขึ้นนำ 1 แต้มได้ในที่สุด จากการเลย์อัพของ มอร์แกน คนเดิม ด้วยเวลาเหลือเพียง 6 นาที 42 วินาที ในควอเตอร์สุดท้าย
ก็แน่นอนละ นี่มัน โมเสส มอร์แกน เจ้าพ่อลูกยิงเกมกระชั้น
บรรยากาษที่สนาม CIS Arena ณ ขณะนั้น มันสุดยอดมาก เป็นอะไรที่ต้องอยู่ที่ตรงนั้น ถึงจะรับรู้ความสุดยอดของมันได้ ทุกๆ ครั้งที่มีการทำแต้มไล่ขึ้นมา เสียงกองเชียร์ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ กองเชียร์ตะโกนกันเสียงแตกตอนป้องกัน
จังหวะที่ โมเสส วิ่งเอาบอลขึ้นเลย์อัพ เสียงทั้งสนามค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ จนระเบิดกึกก้องตอนบอลลงห่วงไป
บอกเลยว่าขนลุกจริงๆ
- ความกดดัน คือ อะไร

อยู่ดีๆ ทีมคุณ จากที่นำอยู่ 16 แต้ม กลายมาเป็น ตาม 1 แต้ม
กองเชียร์ทีมเหย้ากำลังคึกคะนอง เสียงดังประสาน
ตัวบุกหลักๆ ของคุณเริ่มรวน
แน่นอนสิว่า คุณต้องโยนบแลให้กับ ไอ้ก้อนกล้ามเนื้อสูง 6’9″ ที่มีแชมป์ ABL 3 สมัย พร้อมกับเข้าชิงมาแล้ว ทุกฤดูกาล
สตีฟ โธมัส อยากจถามคุณหน่อยว่า: ความกดดันมันคืออะไรวะ?
หลังจากที่เก็บแต้มไปได้อย่างนิ่งๆ และ เงียบๆ และคุณกำลังบุกขึ้นมาอีกครั้ง คุณจะทำอะไรต่อดี?
ถามมาได้ ก็ทำเหมือนเดิมดิ
เพิ่งได้สองแต้มจากการเล่นเกมวงในไป ได้รีบาวด์มา แล้วเห็นไทเลอร์ แลมบ์ วิ่งอยู่ไกลๆ จะทำไงต่อ
เข้าโหมดนักเบสบอล แล้ว ปามันไปสุดสนามเลยสิ
โมเสส มอร์แกน บุกขึ้นมา จ้องตาคุณ ในขณะที่เขากำลังจะข้ามเข้ามา แล้ววินาทีนั้น เขาก็ชะงักไป มากพอที่จะให้ เฟรดดี้ โกล์ดสตีน เข้าไปขโมยบอลได้
สตีฟ โธมัส มองชื่นชมผลงานของตัวเองสองวินาที ก่อนที่จะกลับไปเล่นเพลย์ต่อไป ในเวลาไม่ถึงสองนาที ไฮเทค บางกอก ซิตี้ กลับมานำ 7 แต้มอีกครั้ง
- มองกระจกหลังด้วย

พอ โธมัส ช่วงดันให้แต้มทิ้งห่างออกไปอีกครั้ง ก็เหมือนว่าความตื่นเต้นทั้งหมดจะจบลงแล้ว…แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้นหรอก นี่มันทีมไซ่ง่อน ฮีตในบ้านเชียวนะ
ฮีต ไล่ตีตื้นทำคะแนนอีกครั้ง จนตามเหลือเพียงแต้มเดียว จากการยิงสามแต้มของ โมเสส มอร์แกน (ไอ้หมอนี่อีกแล้วเรอะ?!)
การแข่งขันเหลือ 1 นาที 33 วินาที
หลังจากที่ไฮเทคยิงลูกโทษลงไปลูกหนึ่ง เดวิด อาร์โนลด์ ก็สวนกลับเร็ว และตีเสมอได้อย่างทัวควันที่ 70 คะแนน ด้วยเวลาเหลือเพียงนาทีเดียว
ต้องบอกอีกทีว่า บรรยากาศ ที่ CIS Arena ตอนนั้นมันสุดยอดมาก แค่เพียงได้นึกถึงอีกครั้งก็ขนลุกซู่ซ่า
ว่ากันด้วยตัวเลข
พอเกมกลับมาเสมอกันอีกครั้ง ตอนจบของทั้งสองทีมมาตัดสินกันที่ ใครจะสามารถตีโจทย์ปัญหาที่รุมเร้าตัวเองมาตลอดทั้งเกมได้ก่อนกัน
- 15-30
จริงๆ แล้วไฮเทค ก็ไม่ได้ยิงลูกโทษ แย่มาก ขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่หรอก
จากการเล่นทั้ง 66 เกมใน ABL ปีที่แล้ว มีเพียง 15.9% ของจำนวนครั้งที่แข่งเท่านั้น ที่ยิงได้ไม่เกิน 50% ในปีนี้ มีเพียง 19.0%
ไฮเทค เป็นทีมที่ยิงลูกโทษจำนวนมาก และการพลาดตรงนี้ ทำให้เหมือนปล่อยแต้มทิ้งไปดื้อๆ 15 แต้ม เป็นสาเหตุที่ทำให้ทีม ไซ่ง่อน ฮีต ไล่ตีตื้นแต้มมาได้ตั้งแต่แรก
แต่พอถึงจุดที่ต้องสังหารจริงๆ ไฮเทค ก็จัดการได้ โดย 4 แต้มสุดท้ายของไฮเทคในเกมนี้ มาจากการยิงลูกโทษทั้งนั้น
- 21
จำนวนการเทิร์นโอเวอร์ คือ จุดอ่อนของฮีตในเกมนี้ การเทิร์นโอเวอร์ถึง 21 ครั้ง เป็นจำนวนการเทิร์นโอเวอร์ที่มากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ในปีนี้ และ ไฮเทค ก็กอบโกยผลประโยชน์จากตรงนี้ไม่ใช่น้อย
ยิ่งในจังหวะที่เกมกำลังกระชั้นชิด เดวิด อาร์โนล์ด เสียเทิร์นโอเวอร์ให้กับ เฟรดดี้ โกล์ดสตีน (ที่ทำ สตีลได้ 10 ครั้ง!!) และ ทำให้แต้มห่างออกไปจนตามไม่ทัน
ความประทับใจหลังเกม
จริงๆ แล้วเกมนี้ มีอะไรให้กล่าวถึงอีกมาก…แต่มันเริ่มยาวเกินไปละ
เป็นอีกครั้งที่ ฮีต แสดงออกมาให้เห็นว่าเป็นทีมที่เล่นในบ้านได้น่ากลัวจริงๆ และ ตัวทีมต้องให้เครดิตกับกองเชียร์ด้วย ตอนเล่นที่ไทย มันไม่มีพลังงานที่ช่วยผลักดันกำลังใจมากขนาดนี้ให้ทีม ไซ่ง่อน ฮีต
ตอนนี้ก็มี สเตฟาน หงวนมารวมเล่นแล้ว ซึ่งเป็นข่าวที่ไม่ดี สำหรับ โมโน แวมไพร์ แล้ว พิลิพินาส คิงส์ ที่เล็ก ตำแหน่งเพลย์ออฟอยู่
ไฮเทค หนีความตาย และได้ชัยชนะมาอีกครั้ง แต่คงไม่ดีใจกับฟอร์มวันนี้เท่าไหร่แน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการยิงลูกโทษ หรือ การยิงโดยรวมทั้งหมด
แต่การที่เล่นไม่ดีเท่าไหร่ แต่ ยังดูเป็นทีมที่เล่นได้ดีขนาดนี้ ก็ยิ่งยืนยันได้ว่า ทีมนี้เป็นทีมเต็งที่จะเข้ารอบชิงจริงๆ
ในเกมต่อมา ไฮเทค บางกอก ซิตี้ จะเจอกับ เคแอล ดรากอนส์ วันที่ 13 ธันวาคม เป็นเกมที่เจอกันครั้งแรกสำหรับ แชมป์ และ รองแชมป์ปีที่แล้ว อีกทั้งยังอาจจะเป็นการพรีวิวคู่ชิงปีนี้อีกด้วย เพราะฉะนั้น ความมันส์นี่รับประกันได้เลย แน่นอนว่า ดรากอนส์ ถือไพ่เหนือกว่าด้วยความเป็นเจ้าบ้านที่มีสถิติ 14-2 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา…แต่จำนวนที่แพ้สองเกมนั้น มาจากการที่แพ้ ไฮเทค นี่แหละ
ทีมไซ่ง่อน ฮีต จะ เจอกับ สิงคโปร์ สลิงเกอร์ส อีกครั้งที่ CIS Arena วันที่ 12 ธันวารม โดย สลิงเกอร์สจพทดสอบกองเชียร์ของแฟนๆ ไซ่ง่อน อีกครั้ง
Feature Picture Credit: Kuk Onvisa Thewphaingarm