Avengers: ภาคบาสไทย!!!

เนื่องจากว่าช่วงนี้ ผมทำงานอยู่ที่ฟิลิปินส์ จึงได้มีโอกาสดู Avengers: Age of Ultron ก่อนที่มันเข้าฉายในไทย 1 สัปดาห์ (ขี้อวดสุดๆ)

ถ้าคุณคาดว่าดูหนังเรื่องนี้แล้วจะออกมาอึ้งทึ่งเสียวกับเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้งชวนคิด…ก็ขอบอกเลย ว่าคุณน่าจะผิดหวัง
แต่ถ้าไม่ได้คาดหวังอะไรกับมัน นอกจาก ว่าจะเป็นหนังยอดมนุษย์แสดงอภิริหาริย์ บู๊กันล้างผลาญ อะดรีนาลีนสูบฉีด และแถมๆ มุกตลกคั่นกลาง คุณจะพบว่ามันเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมมาก

หลังจากที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบลงไป ผมก็ไปเริ่มต้นเขียนบทความสำหรับสรุปเกม แมดโกทส์-ไฮเทคเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน
แปลกแต่จริง ผมกลับพบว่าตัวเองอินกับหนังเรื่องนี้มากซะจนเริ่มจับยอดมนุษย์แต่ละคน มาเทียบกับนักบาสไทย และก็เป็นจุดเริ่มต้นของบทความนี้

คำเตือน: แน่นอนว่าในบทความนี้ มี SPOILERS อยู่ ถึงแม้จะมีคำเตือนประกอบไว้แล้ว แต่ผมก็ยังแนะนำให้ไปดูหนังซะก่อนนะครับ

For English, read here.

มาเริ่มต้นกับผู้นำทีมเลยดีกว่า

“บอย” ปิยพงษ์ พิรุณ คือ “Captain America”

อันนี้ค่อนข้างจะง่ายหน่อย มันจะมีอะไรง่ายไปกว่าการจับ กัปตันอเมริกา มาชนกับนักบาสที่ได้ฉายาว่า “กัปตันบอย”!! สตีฟ รอดเจอร์ (ชื่อจริงของกัปตันอเมริกา) นั้นเป็นผู้นำโดยกำเนิด ซึ่งเป็นเด็กขี้ก้างคนนึง ก่อนที่จะได้รับโอกาสเป็นยอดมนุษย์ไอ้หนุ่มร่างล่ำ
ปิยพงษ์ พิรุณ เองก็เป็นเด็กขี้ก้างคนนึงจากขอนแก่น ที่ไต่เต้าได้โอกาสอย่างต่อเนื่องจนมาเป็นซุปตาร์ร่างล่ำของวงการบาสไทยคนนึง
ในจุดสูงสุดนั้น ทั้งคู่ก็เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ในสิ่งที่ตัวเองถนัด (รอดเจอร์ – การผดุงความยุติธรรม , ปิยพงษ์ – บาส)
ทั้ง รอดเจอร์ส และ ปิยพงษ์ ต่างก็อยู่คู่คร่ำหวอดกับวงการมานาน (ถึงแม้ว่า ปิยพงษ์ จะไม่ได้ถูกแช่แข็งนานกว่า 70 ปีก็เถอะ) แต่ทั้งคู่ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งคู่
การที่อาวุธประจำกายของกัปตันอเมริกา คือ โล่ และ อาวุธคู่ใจของ กัปตันบอย คือ การป้องกันนั้น ทำให้การเปรียบเทียบในรอบนี้ง่ายขึ้นหลายเท่า

“JO” รัชเดช เครือทิวา คือ “Hawkeye”

จริงๆ แล้วตอนแรกผมปัก JO ไว้กับตำแหน่งของกัปตันอเมริกา แต่ไปๆ มาๆ รู้สึกว่า JO เหมาะกับ ตำแหน่ง ฮอว์กอาย มากกว่า
อย่างแรกที่เห็นกันโต้งๆ เลย คือ ทั้งคู่ถนัดในการโจมตีระยะไกล คนนึงก็ใช้ธนูด้วยความแม่นยำโคตรๆ อีกคนก็ใช้ลูกยิงสามแต้มด้วยความแม่นยำโคตรๆ
แต่แล้ว ทั้งคู่ก็ยังมีการต่อสู้ในรูปแบบอื่น ที่ถูกมองข้ามไป ฮอว์กอายนั้นมีการต่อสู่ระยะประชิดที่ไม่แพ้ใคร ในเรื่องความหลากหลาย เช่นเดียวกัน JO ก็ยังมีความสามารถในการข้ามเข้าหาห่วง และ การจ่ายบอล ที่ดี
แต่กลับกลายเป็นเพราะความเป็นเลิศในด้านการโจมตีระยะไกลนั้น ทำให้เรื่องราวพวกนี้ ถูกมองข้ามไป

ช่วงนี้มี SPOIL!!!!! ตรงนี้อาจจะเป็นความเห็นส่วนตัวมากกว่า นั่นคือในเรื่องของเบื้องหลังที่มาที่ไปชีวิตปรกติของทั้งคู่ ตัวผมก็คงเหมือนๆ กับทุกคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ คือ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่า คลินท์ บาร์ตัน (ชื่อจริงขิงฮอว์กอาย) นั้นมี ภรรยาเป็น คุณนาย บาร์ตัน และ บาร์ตันน้อยๆ อีก เช่นเดียวกันภรรยาของ JO ก็เพิ่งจะคลอดลูกคนแรกไปเมื่อเร็วๆ นี้! คนในวงใกล้ชิดกับ JO ก็คงจะรับทราบข่าวคราวนี้กันมาเนิ่นนานแล้ว (อาจจะคล้ายๆ กับที่ แบล็ค วิโดว์ รู้เรื่องครอบครัวชีวิตปกติ ของบาร์ตัน) แต่สำหรับคนในวงข้างนอกนั้น แทบไม่ได้รับรู้อะไรแบบนี้เลย
ในพื้นที่ตรงนี้ ก็อยากอวยพร ขอให้ น้องโฮมมี่ นั้น โตขึ้นเป็นคนที่เก่ง เหมือนพ่อและแม่นะครับ

“รูเบน” วุฒิพงษ์ ดาโสม คือ “Thor”

ผมรู้สึกผิดหวังกับตัวเองไม่ใช่น้อยเลย ที่ใช่เวลาตั้งนาน กว่า จะคิดออกได้ว่าต้องจับใครมาคู่กับ ธอร์ โอดินสัน
ธอร์เป็นหนุ่มล่ำรูปงาม มาจาก อีกภพนึง ที่ต้องค่อยๆ ปรับตัวตามวัฒนธรรมการอยู่กินของชาวโลก
รูเบนเป็นหนุ่มล่ำรูปงาม ที่พ่อแม่มาจาก อีกประเทศนึง ที่ปรับตัวตามวัฒนธรรมการอยู่กินของชาวไทยได้อย่างดี
ธอร์นั้นมีอาวุธคู่ใจที่รู้จักกันโดยทั่ว คือ ค้อนสายฟ้า และ รูเบน ก็มีอาวุธคู่ใจที่ชื่อเสียงลือลั่น คือ การดั๊งที่รุนแรงเหมือนฟ้าผ่า
ผมรู้สึกว่าการเปรียบเทียบอันนี้ น่าจะสบายใจกับตัวเองที่สุดแล้ว

“ยักษ์” ชัยวัฒน์ แกดำ คือ”The Hulk”

ตอนแรก อาจจะดูเหมือนว่าเป็นการเปรียบเทียบที่ง่าย กับการเทียบเอา พี่ยักษ์ มาคู่กับ ไอ้ยักษ์เขียว “เดอะ ฮัลค์” แต่ในความเป็นจริง จุดเชื่อมโยงมันไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น ในโหมดการต่อสู้ ทั้งคู่เป็นคนที่ทั้งใหญ่ ทั้งแกร่ง และหยุดยากก็จริง แต่บุคลิกนอกสนามของพี่ยักษ์ที่เป็นคนร่าเริง ตลกขบขันนั้น ค่อนข้างจะขัดกันกับ ดอกเตอร์ บรูซ แบนเนอร์ (ชื่อจริงของเดอะ ฮัลค์) ที่เป็นเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา

ช่วงนี้มี SPOIL!!!!! ในฉากที่ เดอะ ฮัลค์ นั้น กำลังค่อยบินออกไปลับขอบฟ้าจากแก๊งผองเพื่อน อเวนเจอร์ส ในโหมดล่องหนนั้น อาจจะเทียบได้กับจังหวะที่ ชัยวัฒน์นั้น ประกาศจะเลิกเล่นทีมชาติ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
มันอาจจะดูเหมือนจับจุดเชื่อมได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่…แต่หยวนๆ หน่อยนา

“คานู” วัฒนา สุทธิสินธุ์ คือ “Ironman”

อันนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบกระทันหันมาก ตอนแรกนั้น ได้จับ อรรถพร เลิศมาลัยพร มาคู่กับ โทนี่ สตาร์กส์ (ชื่อจริง ของ ไอออนแมน) ซึ่งอาจจะเหมาะสมในเรื่องของความฮา และเคราแพะสุดจ๊าบ แต่ผมรู้สึกว่า เบื้องหลังของ โทนี่ สตาร์กส์ นั้น เหมาะสมกับ วัฒนา สุทธิสินทร์มากกว่า
การที่โทนี่ สตาร์กส์ นั้นเคยถูกจับเพื่อเรียกค่าไถจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย จน ท้ายสุดจบลงที่มีเสก็ดระเบิดติดอยู่ในร่างกายนั้น ผมว่าเทียบได้กับ คานู ที่มีอุบัติเหตุเมื่อปีที่แล้ว เหตุการณ์ทั้งคู่นั้นทำให้แต่ละคนนั้นกลับมาแข็งแรงยิ่งกว่าเดิมอีก
นอกจากนี้ คำว่า “ไอออนแมน” ในทางการกีฬาแล้ว สื่อความหมายได้อีกแบบคือ เป็นนักกีฬาที่คงทน และไม่ค่อยพลาดที่จะลงสนาม ซึ่งก็ตรงกับคานูอีกด้วย ที่หายไปจากสนามหลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้นไม่นาน ก็กลับมาเล่นอย่างสุดยอดได้อีกครั้ง

“โส” โสฬส สุนทรศิริ คือ “Quicksilver”
“บาส” กานต์ณัฐ เสมอใจ คือ “Scarlet Witch”
สำหรับใครที่อยากจะเห็นภาพที่ โฟโต้ช็อบ เอาหัวพี่บาสไปแปะอยู่บน สการ์เล็ตต์ วิทช์ ก็ขอบอกตรงนี้ไว้เลย ว่า เสียใจด้วย ทำไม่ลงจริงๆ ที่ทำได้ก็คงได้แต่ เอาทั้งคู่แปะลงบนตัว คลิกซิลเวอร์ ละกัน

อย่างแรกที่ต้องเคลียร์ให้ขาด การจับคู่ที่ผมน่าจะทำคือ การจับเอาคู่ “แฝดแม็กซิมอฟ” (นามสกุลของฝาแฝดคู่นี้) ไปคู่กับ “เมจิกทวิน” ฝาแฝดอภิรมย์วิไลชัย แต่แล้วแผนนี้ต้องตกไป เพราะผมรู้สึกว่า พี่ปาล์มและพี่ปอยนั้น แลดู ไม่ค่อย “ตรง” กับ วานดา และ ฟิเอโตร แมกซิมอฟ เท่าไหร่

ในทางกลับกัน ผมรู้สึกว่า ความสามารถของ “โส” และ “บาส” นั้นตรงสุดๆ
โสฬส นั้นว่าไปก็เป็น “จอมซิ่ง” คนนึงที่อาจจะถือได้ว่าเป็นคนที่ “เร็วที่สุด” ในวงการเลยทีเดียว พี่บาส กานต์ณัฐ นั้นก็มีความสร้างสรรค์ในการสร้างเกมที่ “เหนือจินตนาการ” มาก
ทั้งคู่ทำงานอย่างเข้าคู่กันได้อย่างยอดเยี่ยม

ช่วงนี้มี SPOIL!!!!! ก็อาจจะยืดการเปรียบเทียบออกไปอีกในเรื่องของการย้ายสังกัด โดยแฝดแม็กซิมอฟ นั้นย้ายจากฝ่ายร้ายมาเป็นฝ่ายดี และ โส/บาส นั้นย้ายจาก ไฟฟ้าฯ มา โมโนฯ
ควิกซิลเวอร์ นั้น ตายในหน้าที่ในหนังเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น ในอีกด้านก็อยากจะจับ พี่บาส คู่กับ ควิกซิลเวอร์ เป็นการเปรียบเทียบการบาดเจ็บข้อมือ ช่วงต้นปีนี้
ถ้าเป็นไปตามที่คาดหมายนั้น ควิกซิลเวอร์ ไม่น่าจะ “ตาย” ถาวร เดี๋ยวก็คงหาทางคืนชีพขึ้นมาได้ ตามฟอร์มของ มาร์เวล ซึ่งก็จะไปคู่กับเรื่องราวการหวนกลับสนามของพี่บาสได้อย่างลงตัวเป๊ะๆ ในรอบอินเตอร์ของ BTSL นี้

“โค้ชหมู” กฤต ไพโรจน์พีรไพศาล คือ “Nick Fury”

ทั้งคู่เป็นคนที่มีการพูดข้างสนามที่เสียงดังและดุดัน อีกทั้งยังมีหลุดๆ คำหยาบอยู่บ่อยๆ เวลาอารมณ์กำลังมา ทั้งคู่เป็นผู้นำของทีมและบางทีก็อารมณ์ร้อนเร็วอีกด้วย…จริงๆ ก็จบการเปรียบเทียบได้แค่นี้แหละ

“กุ๊ก” อรวิสา ทิวไผ่งาม คือ “Black Widow”

จริงๆ แล้ว ผมก็ไม่ได้มีปัญหากับการจับคู่นักบาสหนุ่มไทย กับ ตัวละครผู้หญิงนะ (อย่างที่เห็นกับการเทียบ สการ์เล็ตต์ วิทช์ กับ พี่บาส) แต่ในกรณีของ แบล็ค วิโดว์ นั้นกลับหาคนที่มาเทียบได้ยากจริงๆ ในสนาม
แต่พอมานอกสนามนั้น กลับเจอว่า “กุ๊ก” นี่น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว ทั้งคู่นั้นคือที่สุดในเรื่องของการ “เล็ง” (เล็งภาพถ่าย/เล็งปืน) และเป็นสาวน้อยท่ามกลางวงการที่มีหนุ่มๆ ร่างกายกำยำ ทั้งนี้ ทั้งคู่ก็ยังคงแสดงความเข้มแข็งในตำแหน่งของตน โดยที่ยังมี “ความเป็นผู้หญิง” แสดงออกมาอย่างชัดเจน

ช่วงนี้มี SPOIL!!!!! ในตัวหนังนั้น นาตาชา โรมานอฟ (ชื่อจริง ของ แบล็ค วิโดว์) และ บรูซ แบนเนอร์ นั้นมีกุ๊กกิ๊ก โรแมนติกกัน ในชีวิตจริงของสังคมบาสไทยเรานั้น พี่ยักษ์มีภรรยา และ ลูก เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น การเปรียบเทียบของเราก็ ตกไปตรงจุดนี้

EXTRA COMPARISON เพิ่มเติมสุดพิเศษ
เควิน ดาโสม คือ “Loki”
ตรงๆ นี้ก็ต้องหยวนๆ กันเยอะหน่อย เพราะว่า โลกิ ไม่ได้อยู่ในหนังภาคนี้
แต่แล้วนั่นมันก็ทำให้การเปรียบเทียบนี้ เท่กว่าเดิมอีก!! เควิน นั้นเป็นน้องชายของ รูเบน (เหมือนกับที่ โลกิ เป็นน้อง ธอร์) อีกทั้งยังไม่ได้เล่นใน BTSL นี้ หลังจากที่ลงเล่นใน TBL2014 กับทีม ขอนแก่น แรพเตอร์ส (เหมือนกับที่ โลกิ ไม่ได้อยู่ในหนังภาคนี้ แต่อยู่ในภาคก่อนหน้านี้)
จุดเชื่อมตรงนี้มันเท่เกินกว่าที่ผมจะปล่อยผ่านไปเฉยๆ

ในส่วนของ วิชั่น และ ฟอลค่อน นั้น ขอละเอาไว้ เพราะว่า เรื่องราวเบื้องหลัง และ บทบาทในหนังนั้น จับมาเชื่อมไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่เชื่อผมเถอะว่าผมพยายามแล้ว
ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้แหละครับ คิดว่ายังไงกันบ้าง?
มีใครที่เหมาะกับบทบาทไหนมากกว่าไหม?
มียอดมนุษย์จากต่างค่ายที่เหมาะสมกับนักบาสไทยคนไหนอีกรึเปล่า?

แสดงความคิดเห็นได้ในช่องความเห็นข้างล่างนะครับ หรือ อาจจะไปแสดงความเห็นที่เพจ facebook ของเราที่ Tone’s And Definition’s Facebook page