BTSL Game Recap 19/04/15 Hi-Tech vs. Nakhon Pathom Madgoats: ร่ายรำก่อนร่ำลา

จะต้องเปิดเทปนี้ซ้ำไปซ้ำมาอีกกี่รอบกันเชียว?
กี่ครั้งแล้วที่เราเห็นสองทีมนี้กอดรัดฟัดเหวี่ยง เพื่อแย่งชิงตำแหน่ง “ที่สุด” ในวงการบาสไทย?

อย่างน้อยๆ ก็อีกครั้งนึงนี่แหละ ที่ ไฮเทค จะต้องมาชนกับ นครปฐมแมดโกทส์ ในศึกที่อาจจะ กำหนดว่าใครจะเป็นแชมป์รายการ Basketball Thailand Super League

For English, read here.

BTSL 19/04/2015: Hi-Tech 87 : Nakhon Pathom Madgoats 66

เดี๋ยวนะ นั่นคือสกอร์จบจริงๆ เรอะ? ขนาดพิมพ์เองกับมือก็ยังไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่
ทีมที่กวาดต้อนทุกๆ ทีมใน BTSL มาตลอดสองเดือนแบบไม่แพ้ใคร ด้วยคะแนนห่างเฉลี่ย 12.2 แต้ม นี้แพ้ไฮเทคถึง 21 แต้มจริงๆ เรอะ?

บ้าจริง…

แต่ ผมได้ทำการวิเคราะห์ก่อนเกมก่อนแข่งไว้ เรามาดูกันดีกว่า ว่าประเด็นที่ได้พูดถึงนั้น เป็นไปตามที่คาดการณ์ หรือ แป้ก ขนาดไหน:

รีบไปไหน?

เกมของไฮเทคคือเกมฟาสเบรก

ในเกมนี้ ไฮเทค ออกตัวแรง และเร็วมาก เกมเริ่มต้นด้วยฟาสเบรกของ วุฒิพงษ์ ดาโสม และ ลูกฟาสเบรกของเขา จนทำได้ 6 แต้มรวดในการครองบอล 3 ครั้งแรก ทั้งเกมนี้ ไฮเทคมีแต้มจากการได้เทิร์นโอเวอร์ ทั้งหมด 22 แต้ม

และก็ไม่พ้นว่าจะมีลูกฟาสเบรกตามแบบฉบับไฮเทค คือลูกปาไกลแบบควอเตอร์แบ็ค ของ สตีฟ โธมัส ให้กับ รูเบน ที่กำลังซิ่งไปที่ห่วง พร้อมกับยัดลงไปอย่างนุ่มนวล

แน่นอนว่า การเล่นเกมเร็วนั้นจะไม่มีความหมายเลข ถ้ายิงไม่ลง แต่สำหรับไฮเทคในวันนี้ เรื่องยิงก็ยิงมาเหมือนกัน
จากที่ตอนควอเตอร์แรกตามอยู่ 6 คะแนนนั้น ไฮเทคได้เร่งการทำคะแนนรัวๆ จน กลับมานำตอนพักครึ่งด้วยคะแนนที่ห่างถึง 10 คะแนน!
จุดเปลี่ยนของเกมนี้คือ จังหวะตั้งแต่ นาทีที่ 6 ของควอเตอร์ที่ 2 จนพักครึ่ง ช่วงเวลาหกนาทีนั้น ไฮเทคมีการทำแต้มในการครองบอลเกมบุกทุกรอบ ยกเว้น การบุกสามครั้ง ที่มีการ ฟาวล์ฝั่งรุกสองครั้ง และ ยิงพลาดอีก 1 ครั้งแล้วเก็บไม่ได้
การที่เราบุกขึ้นมาแล้วทำแต้มได้เกือบทุกรอบนั้น เป็นการทำลายเกมบุกของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะมันจะกลายเป็นว่า อีกทีมจะสร้างจังหวะการไหลของแต้มได้ยากมากขึ้น ทีมตรงข้ามจะไม่ได้โอกาสได้ ฟาสเบรก และก็ไม่มีโอกาสเร่งดันบอลขึ้น ในขณะที่แนวรับยังไม่ตั้งตัว
และนี่คือสาเหตุนึงว่าทำไมเกมรุกของแมดโกทส์ถึงได้ตันลงไป (เดี๋ยวจะมีการกล่าวถึงจุดนี้เพิ่ม)

สรุป: ไฮเทคนั้นได้เล่นตามเกมที่ตัวเองถนัด และคุมจังหวะเกมรุกของตัวเองได้ดี ซึ่ง การที่จะชนะทีมที่เล่นเกมรุกตามจังหวะของตัวเองได้นั้น เป้นเรื่องที่ค่อนข้างยาก

พลแม่งปืนพร้อม!

สิ่งที่ไฮเทคต้องทำให้ได้ คือการบีบให้สตาร์ของแมดโกทส์ทั้งหลาย ยิงหลายๆ ครั้ง อีกทั้งต้องยิงไม่ลงด้วย

ไมเคิล เฟย์ และ “เจโอ” รัชเดช เครือทิวา นั้นยิงรวมกัน 30 ลูก ลง 9 ลูก
ทีมแมดโกทส์ยิงรวมกันไป 61 ครั้ง ถ้าคิดเลขอย่างคร่าวๆ คือจะมีคนสองคนที่ทำหน้าที่ยิงไปเกือบ ครึ่ง ของการยิงทั้งหมด และ ยิงลงไปเพียง 30% ของการยิงทั้งหมดนั้น
โอกาสที่จะชนะของไฮเทคนั้นจะสูง ก็ต่อเมื่อ ดาวยิงของแมดโกทส์สองคนนั้น ยิงหลายครั้ง และยิงไม่ค่อยลง ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ

ใครที่ดูเกมนี้ ก็คงมองเห็นว่า เกมรุกของ แมดโกทส์นั้น ดูตันมาก
เหตุผลแรก คือ การที่ขาดจังหวะการไหลของเกมบุก แมดโกทส์นั้นแทบไม่มีโอกาสขึ้นฟาสเบรก และในจังหวะน้อยครั้ง ที่ขึ้นไปทำแต้มอย่างรวดเร็วได้นั้น ก็เจอการฟาวล์ของ ไฮเทค เบรกจนชะงัก
เกมนี้ ไฮเทค ฟาวล์ ไปทั้งหมด 26 ครั้ง ซึ่งมันก็ทำให้ แมดโกทส์มีโอกาสยิงจุดโทษสูงถึง 25 ครั้ง ถึงแม้ว่าแมดโกทส์จะยิงลูกโทษได้ดี และเก็บไปถึง 17 แต้มจากลูกโทษ แต่ การที่ต้องมาชะลอเกมบุกบ่อยๆ เพื่อไปยิงลูกโทษนั้นก็ทำลายจังหวะของเกมบุกได้ไม่ใช่น้อย

หรือ บางที คุณอาจจะบอกว่า วันนี้เป็นวันที่ แมดโกทส์ ยิงไม่มาก็ได้ แต่การที่จะพูดแบบนั้น ก็ถือว่าเป็นการมองข้ามเกมรับของไฮเทค อย่างน่าน้อยใจ

แมดโกทส์ ทำแต้มเฉลี่ยสูงที่สุดในลีกอยู่ที่ 81.3 แต้มต่อเกม
ไฮเทคเสียแต้มน้อยที่สุดในลีก ที่ 61.3 แต้มต่อเกม

การป้องกันของ ไฮเทค นั้นปิดเกมบุกของ แมดโกทส์ ได้อีกครั้งในเกมนี้ (ในเกมที่แล้ว แมดโกทส์ ทำไป 61 แต้ม) ทุกๆ คนต่างก็มีส่วนร่วมและทุ่มเทกับการป้องกัน แต่คนที่ดูโดดเด่นออกมาเป็นพิเศษ คือ “บอย” ปิยพงษ์ พิรุณ

ซุปเปอร์บอย และ เจโอ ต่างก็เป็นคู่รักคู่แค้นกันมาเนิ่นนาน ดังนั้น หลังจากเหตุการณ์ที่โดนเจโอปักสามแต้มไปสองดอกในเกมที่เจอกันรอบที่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจที่ ซุปเปอร์บอยจะลงมาจากเก้าอี้ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน มาเพื่อปิดตาย ยอดดาวยิง คนนี้
รูปแบบการป้องกันเจโอของ ปิยพงษ์ นั้นจะแตกต่างออกไปจากคนอื่นอยู่
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ รูเบนนั้น จะประกบเจโออย่างตรงไปตรงมา และต่างประกบทุกก้าวเหมือนเป็นเงาเพื่อให้สร้างจังหวะลำบาก ซึ่งรูเบนก็ป้องกันแบบนี้ได้ดีระดับนึง แต่ นักบาสที่มีความสามารถทางเกมบุกที่สูงอย่างเจโอ เจอป้องกันแบบนั้นไป ก็คงตีแตกได้เป็นครั้งคราว
แต่สำหรับปิยพงษ์นั้นจะยืนป้องกันแบบปิดทางข้ามด้านขวาเกือบ 100% และเหยียดแขนขึ้นสูงแทน

การป้องกันในแบบนี้ จะปิดการข้ามบอลทางขวาด้านถนัดของเจโอ และยังจะทำให้มีจังหวะในการยิงที่ยากมากกว่าเดิมอีกด้วย แต่มันก็ทำให้การข้ามทางด้านซ้ายนั้นโล่งโจ้งมาก
ซึ่งนั้นก็คือเป้าหมายของการป้องกันของ ปิยพงษ์ เพราะ การที่ให้เจโอข้ามมาทางด้านซ้ายนั้น มีความกดดันน้อยกว่า รอให้เจโอสร้างจังหวะของตัวเอง จากวงนอก

การป้องกันแบบนี้ ยังหยุดการบุกของแมดโกทส์ได้อีกทางด้วย เพราะการบีบและปล่อยให้เจโอข้ามเข้ามามากขึ้น ทำให้พื้นที่การเล่นของ ไมเคิล เฟย์ ใกล้แป้น น้อยลง เห็นได้จากการที่ เฟย์ นั้นต้องออกไปยิงจากระยะสามแต้มถึงสามลูกเลยทีเดียว
ถ้ามองกันแบบนี้ การป้องกันของปิยพงษ์นั้น ช่วงในการจำกัดเกมบุกของแมดโกทส์ถึงสองทางเลย

สรุป: การป้องกันอย่างเหนียวแน่นของไฮเทค รวมกับ วันที่ดวงไม่ดี ทำให้กลายเป็นวันที่เกมรุกดูอึดอัดมาก

หมอลักษณ์ฟันธง!

ผมก็ได้เขียนไว้ในการวิเคราะห์ก่อนเกมละนะ ว่า ถ้า เจโอ ยิงไม่มา และ ยิงหลายครั้ง โอกาสชนะของแมดโกทส์ก็จะน้อยลง
ถึงแม้ว่าเจโอจะยิงลงไปบ้างก็เถอะ แต่จังหวะที่ได้ยิงแต่ละลูกนั้น ได้มาอย่างยากลำบากเหลือเกิน

สรุป: หมอลักษณ์ฟันธงเฉียบขาดมาก

ว่าวววววววววววววว

…แต่ในทางกลับกัน ผมก็ได้เขียนออกไปอย่างมั่นใจว่า ถ้าไฮเทคจะมีโอกาสชนะ มันจะเป็นเพราะ ไม่มณเฑียร วงศ์สว่างธรรม ก็ณกรณ์ ใจสนุก ที่จะเล่นได้ดีมากๆ จนนำชัยมาให้
ผลปรากฎว่า “บาส” มณเฑียร นั้น แม้แต่ในรายชื่อ 12 ตัวก็ยังไม่เห็น [Editor’s Note: เป็นเรื่องน่าสงสัยว่าเจ้าบาสนั้นห่างหายไปจากการลงแข่งขันกับไฮเทคมานานพอสมควรแล้ว] และถึงแม้ว่า ณกรณ์ จะมียิงลูกสามแต้มงามๆ ไปสองลูก แต่เขาก็ไม่ใช่ตัวพลิกเกมมาชนะ อย่างที่ได้กล่าวไว้

สรุป: I know nothing. (ถ้าใครไม่เข้าใจมุกนี้ ผมแนะนำให้ลองดูซีรี่ย์ Game Of Thrones นะครับ มันส์หยดจริงๆ)

บทสรุปเกม

ไฮเทคนั้น กลายเป็นว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้ ด้วยการที่ชนะแมดโกทส์ไปด้วยแต้มมากกว่า 2 แต้ม
แต่การที่มันกลายเป็นชัยชนะที่แต้มค่อนข้างจะทิ้งห่างนั้น มันกลายเป็นของแถมที่น่ายินดีเล็กๆ น้อยๆ สำหรับตัวไฮเทคเอง
แน่นอนว่าเกมนี้ มันจะหมดความหมายในทันที ถ้าเกมหน้า ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ไฮเทคออกไปเยือนรังของผีดุ โมโน แวมไพร์ แล้วแพ้ออกมา เพราะจะทำให้กลายเป้นว่า แมดโกทส์มีโอกาสคว้าแชมป์ด้วยการชนะทิวไผ่งาม
ถ้าไฮเทคอยากจบเรื่องจบราวในวันเสาร์นั้น ก็ต้องคว้าชัยชนะในนัดต่อมานี้ให้ได้

มันคงเป็นภาพที่น่าดู หากว่ากลุ่มแฟนๆ ของ แมดโกทส์ นั้นรวมตัวกัน ไปเชียร์โมโนอย่างสุดใจขาดดิ้นในการแข่งขันวันเสาร์นี้ เพื่อให้โมโนชนะ

แมดโกทส์ นั้นพลิกบทจากที่เอามือไปคว้า ถ้วยแชมป์ได้ข้างนึงแล้ว แต่ก็หลุดมือไป และต้องมายืมมือของโมโนแทน เพื่อให้มีโอกาสลุ้นแชมป์กันอีกรอบ

แต่แล้ว วัฏจักร ของวงการกีฬาก็เป็นเยี่ยงนี้แล ดูอย่าง ซานมิเกลเบียร์เมน ที่เป็นแชมป์รายการ ฟิลิปินส์ คัพ ที่ผ่านมาในเดือนมกราคม และพลิกมาเป็นไม่ผ่านแม้แต่รอบคัดเลือก ใน คอมมิชชันเนอร์ส์ คัพ ในเดือนเมษายน

แต่วัฏจักรนี้แหละ มันทำให้กีฬาการแข่งขันสนุกขึ้นมา

In my Opinion (คหสต)

ในส่วนตรงนี้ของบทความ ผมขอยกสิ่งที่ผมชอบและไม่ชอบจากการดูเกมนี้ ในครั้งนี้อาจจะยาวหน่อย ทนอ่านกันหน่อยนะ แหะๆ

1. จอมโจรขโมยใจ: อยู่ดีๆ ก็ผีเข้าซะงั้น?! “พีท” บัณฑิต หลักหาญ นั้นเป็นนักบาสที่เล่นได้อย่างสม่ำเสมอมาตลอด แต่ก็ไม่ได้มีผลงานที่ถึงขั้นร้อง เฮ้ย ขนาดนี้
นานๆ ทีจะได้เห็น พีท เป็นตัวจริง และเขาก็ตอบแทนด้วยการจุดประกายการรันแต้มในช่วงควอเตอร์สอง ที่ปิดท้ายด้ายการยิงลูกยิงระยะกลาง เพื่อปิดการแข่งขันในครึ่งแรก

แต่สิ่งที่ผมกลับประทับใจที่สุด คือ จังหวะในการพุ่งเอาบอลจังหวะนี้

การที่จะพุ่งเข้าหาบอลขลุกขลิกนั้น แล้วได้บอลมาครองนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าประทับใจระดับนึงละ แต่การที่จะตระหนักสถานการณ์ที่อยู่ต่อแล้วพุ่งไปที่บอล เพื่อจิ้มไปข้างหน้าให้เริ่มต้นการฟาวเบรกนั้น มันเป็นอะไรที่เหนือมากๆ
เสียดายก็แต่กลายเป็นเกิดการฟาวล์ก่อน และ ทาง ณกรณ์ ใจสนุก เองก็ตั้งตัวไม่ทันที่จะรับการส่งลูกนี้เช่นกัน

2. แบกหาม: ถึงแม้ว่าบัณฑิตนั้น จะเล่นดีเอาซะจน กลบ “อาร์ม” ณัฐกานต์ เมืองบุญ (Draft อันดับแรกของ TBF2015) เกือบมิด แต่มันก็ไม่ใช่เพราะว่า อาร์ม นั้นเล่นไม่ดี
แน่นอนว่า การเทิร์นโอเวอร์ ถึง 7 ครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่การมองแบบนั้น มันคือการมองข้ามว่า อาร์ม ต้องกลายมาเป็นตัวที่จะขับเคลื่อนและแบกเกมบุกด้วยตัวเอง หลังจากที่คนอื่นๆ เริ่มตัน

เขาเองก็มีจังหวะที่ทำแต้มได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในที่สุด ภาระทางเกมบุกขนาดนี้ มันกลายเป็นอะไรที่มากเกินจะรับไหว

3. วิวัฒนาการขั้นกว่า: พัฒนาการของรูเบนนั้น เป็นอะไรที่มีการกล่าวขานถึงน้อยเกินไป ใน บาสเก็ตบอลไทยแลนด์ซุปเปอร์ลีกครั้งนี้ ตามความเห็นของผม
ไม่ได้หมายถึงพัฒนาการทางด้านบาสเก็ตบอลนะ แต่หมายถึงพัฒนาการของทรงผม!

มันเริ่มต้นด้วยลุค มนุษย์ถ้ำ,

การที่จะเปลี่ยนมาเป็นแนวใสๆ เกลี้ยงเกลา,

แล้วก็กลับไปเป็นมนุษย์ถ้ำอีกครั้ง,

แล้วอยู่ดีๆ ก็มีก้อนประหลาดสีทองโผล่มาอยากตั้งตัวไม่ทัน,

ก่อนที่จะมาลงตัวระหว่าง ความเนี๊ยบ และ ความเซอร์ ในเกมนี้.

การติดตามทรงผมของรูเบนในแต่ละเกมนั้น ก็สนุกเพียงพอแล้ว บางที

4. รอฉันรอเธออยู่: ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ พี่ยักษ์ ชัยวัฒน์ แกดำ นั้นลงเล่นในเกมนี้ไปเพัยง 4 นาที เท่านั้น อจาจะด้วยความที่ ดนัย คงคุ้ม นั้นเล่นได้ดีพอสมควร แต่ผมก็ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่จะหาเวลาลงเล่นมากกว่านี้ให้ตัววงในที่พลิกเกมในรอบชิงบาสเก็ตบอลดิวิชัน 1 ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้นไม่ได้
ในมุมมองของผม หากว่าปล่อยพี่ยักษ์ลงไปมากกว่านี้ มันอาจจะเปลี่ยนจังหวะของเกมให้ช้าลง และเข้าจังหวะการเล่นปกติของ แมดโกทส์มากขึ้น

แต่ก็ต้องย้ำอีกครั้งว่า จุดตรงนี้ มันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่พูดขึ้นมาหลังจากที่จบการแข่งขันไปแล้ว และเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้นจริงๆ

5. On Fire: ผมได้เขียนไว้ว่า

“คานู” วัฒนา สุทธิสินธุ์ อาจจะเป็นคำตอบ ในการเป็น Go-To Guy ได้ แต่เท่าที่เคยดูมา รูปแบบการเล่นของเขาเหมือน จามอล ครอว์ฟอร์ด มากกว่า เป็น อัลเลน ไอเวอร์สัน ครอว์ฟอร์ดเป็นผู้เล่นที่มีเกมบุกที่สุดยอด แต่บางที อาจจะต้องอาศัยการติดลม และ อาจจะมองเห็นเกมแคบลง เวลาเริ่มมุ่งเข้าหาแป้น”

และมันก็ยังคงเป็นแบบนั้นจริงๆ ไฮเทคไม่มีการเซ็ทเพลย์อะไรให้คานูเล่นทั้งนั้น แต่คานูก็ยังคงทำแต้มไปเรื่อยๆ ในจังหวะของตัวเอง
ในเกมนี้ คานูเล่นได้ดี โดยทำไป 18 แต้ม จากการยิงเพียง 11 ครั้ง และเล่นไปเพียง 18 นาทีด้วยซ้ำ

ยังมีการดั๊งค์ที่ไม่ได้เห็นมานานอีกด้วย!

6. ผู้ทำลายล้าง: ผมคิดว่าส่วนนึง ผมคุ้มชินกับรูปแบบการเล่นของ สตีฟ โธมัส จนไม่รู้สึกว่า การที่เขาทำได้ 20 แต้ม และ 21 รีบาวด์ในเกมนี้ นั้น มันมีความพิเศษ เท่าไหร่
มันให้ความรู้เหมือนเป็นเกมปกติ เกมนึงซะมากกว่า
สตีฟ เป็นมนุษย์ที่เล่นบาสและแสดงออกอารมณ์อย่างชัดเจนมาก ไม่ว่าจะเป็นการคว้ารีบาวด์

หรือการยัดงามๆ จากลูกจ่ายสวยๆ สองลูกนี้

หรือแม้กระทั่งการยิงลูกยิงระยะกลาง ธรรมดาๆ

https://www.facebook.com/tonesanddefinition/videos/821189864627762/

ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็น่าจะหลงรักในความดุดันของสตีฟทั้งนั้น หากได้ดูเขาเล่น

หลายๆ คนอาจจะรู้สึกเหมือนว่า สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นคือสัปดาห์สุดท้ายของ BTSL แล้ว แต่จริงๆ แล้ว ยังเหลือการแข่งขันอีกสองนัด ที่สำคัญไม่ใช่น้อยเลย

ในสัดสัปดาห์นี้ จะมีการแข่งขันสองเกม ตามตารางดังต่อไปนี้:
วันเสาร์ที่ 25 เมษายน: โมโน แวมไพร์ เจอกับ สโมสรไฮเทค ที่ สนามกีฬาประชานิเวศน์
วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายา: สโมสรทิวไผ่งาม เจอกับ นครปฐม แมดโกทส์ ที่ ยิมของมหาวิทยาลัยสยาม
โดยเกมทังหมดจะแข่งขั้นตั้งแต่ 14.00 น. จนถึง 16.00 น. ของทั้งสองวัน และดูถ่ายทอดสดได้ทางช่องสาม แฟมิลี่

รูปภาพจากเพจ BTSL โดยช่างกล่อง กุ๊ก อรวิสา ทิวไผ่งาม