เกมนี้จริงๆ แล้ว ไม่น่าจะเป็นเกมที่ดุเดือดเท่าไหร่ แต่สถานการณ์เปลี่ยนไป เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนที่ทิวไผ่งามพลิกเกมชนะ การไฟฟ้าฯ ได้ ทำให้เกมนี้ กลายเป็นเกมที่สำคัญมากสำหรับทั้งสองทีม
For English >> Click Here
BTSL 04/04/2015: Mono Vampires 63 : Thew Phai Ngarm 59
ในอาทิตย์ที่ผ่านมา “ยักษ์เขียว” ทิวไผ่งามคว้าชัยชนะครั้งแรกมาได้ ซึ่งเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะมันผลักดันให้ทีมมีลุ้นกับตำแหน่งอันดับ 3 ใน BTSL มากขึ้นมาได้ เพียงแค่ว่า ต้องชนะในเกมที่เจอกับโมโน แวมไพร์ในเกมนี้ และ ชนะนครปฐม แมดโกทส์ในเกมปิดฤดูกาล ก็น่าจะเข้ารอบไปได้ อาจจะดูเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก แต่อย่างน้อยๆ สภาพในตอนนี้ ก็เห้นเส้นทางเดินขึ้นมาอย่างลางเลือน
แต่และแล้ว พวกเขาก็ต้องมาชนตอต้นเบ้อเริ่มที่ชื่อว่า แอนโธนี่ แมคเคลน
ทางผู้จัดแข่งขันได้มีการปล่อยสถิติการแข่งขันออกสู่สายตาประชาชนเป็นครั้งแรก และสถิติที่แมคเคลนทำได้นั้น ทำให้ตาลุกวาวเลยทีเดียว กับการทำไป 25 แต้ม 18 รีบาวด์ และการบล็อกช็อตตามสตายล์บิ๊กกี้ ถึง 4 ครั้ง!
Interior Defense (ป้องกันข้างในไว้)
แมคเคลนอาจจะทำไปถึง 25 แต้มก็จริง ซึ่งร่วมๆ แล้วก็เกือยครึ่งของแต้มของ Mono Vampire ทั้งหมด แต่เขาก็ยิงไปทั้งหมด 21 ครั้งแช่นกัน สำหรับเซนเตอร์วงในที่ทำแต้มอยู่ในระยะหก่างจากห่วงไม่เกิน 7 ฟุตนั้น และมีอัตราการยิงลงเพียง ประมาณ 50% นั้น ถือว่าค่อนข้างต่ำเลยทีเดียว
ถ้าหากได้ดูการป้องกันของทิวไผ่งามอยู่ใกล้ชิดก็จะพอเห็นว่าทำไม
ตอนนี้ คริสเตียน บดินทร์ น่าจะถือได้ว่าเป็นผู้เล่นที่ป้องวงในได้ดีที่สุดในลีกที่ไม่มีใครพูดถึง ดูได้จากความทุ่มเทในการรักษาพื้นที่ของตัวเอง ดูการป้องกันของเขาที่สร้างความกดดันในการเล่นใต้แป้นของแมคเคลนในคลิปนี้
ผมชอบหลักการ การป้องของของทิวไผ่งาม ในการป้องกันแมคเลนให้เล่นได้ไม่สะดวก
คริสเตียนก็ยืนพิงอยู่ข้างห้นาแมคเคลน เพื่อปิดเส้นทางการจ่ายบอลตรงๆ (จ่ายบอลชิ่งพื้น หรือ ระดับอก) จากทางปีก

ซึ่งการป้องกันแบบนั้น ก็แน่นอนว่าจะเปิดพื้นที่ด้านหลังระหว่างแมคเคลน กับ แป้น ทางปีกของโมโนก็แค่จ่ายบอลข้ามหัวไปก็จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งให้แมคเคลนถลุงแหลก

แต่แล้ว เส้นทางก็ไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด! การที่จ่ายบอลข้ามหัว ทำให้บอลใช้เวลาในการเดินทางนานขึ้น จึงมีเวลาให้ตัวป้องกันอีกตัวในฝั่งตรงข้ามมีเวลาในการขยับเข้ามาเพื่อประกับแมคเคลนอีกคน

แมคเคลนอาจจะได้บอลก็จริง แต่การที่จะเล่นต่อจากตรงนั้นก็เป็นเรื่องที่ลำบากมากขึ้นมาทันทีที่เจอการประคบคู่ การแข่งครั้งนี้ แมคเคลนไม่ได้เจอปัญหาเรื่องการหาจังหวะยิงของตัวเองเท่าไหร่นัก เพราะว่า ตัวป้องกันที่เข้ามาเสริมคริสเตียน ก็มีแต่ ไบรอันท์ ออสติน ที่ตัวไม่ได้ใหญ่มาก
แต่ในส่วนที่คริสเตียนป้องกันให้แมคเคลนได้บอลยากขึ้นนั้น ก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรแล้ว
หลังจากที่เปลี่ยนตัว คริสเตียนออกไปแล้วเอา บิ๊ก ธีรวัฒน์ จันทะจร เข้ามา ทางทิวฯ ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นการวัดกับ แมคเคลนซึ่งๆ หน้าแทน ซึ่งรตงจุดนี้ ผมรู้สึกว่าทำให้ แมคเคลน เล่นง่ายขึ้น
ถึงแม้ว่าทางทิวไผ่งามจะทำได้ดีพอสมควรกับการป้องกันแมคเคลนตรงจุดนนี้ แต่พวกเขาก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้ในการ box out แมคเคลนให้ได้การรีบาวด์ฝั่งรุกน้อยกว่านี้หน่อย
แมคเคลนเก็บรีบาวด์ฝั่งรุกไปได้ทั้งหมด 9 ครั้ง และมี 1 ครั้งที่ผลลัพธ์ออกมาเป็นลูกยิงใต้แป้นที่ทำให้แต้มห่างออกไป 4 แต้ม โดยที่เวลาเหลือเพียง 24 วินาที
Hidden Force (พลังที่ซ่อนเร้น)
“จ่อย” ไกรวิทย์ เวทวิทยากิจ ของโมโน แวมไพร์ นั้นไม่ใช่สตาร์ และผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครคาดหวังให้เขาเป็นสตาร์ เขาไม่ได้มีทักษะการเลี้ยงที่หวือหวา การจ่ายบอลก็ไม่ได้หวือหวา ศักยภาพทางร่างกายก็ไม่ได้ สปริงเหินหาวกลางอากาศน่าตื่นเต้น แต่กลับแปลกดีที่เขาเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงจังหวะของเกมได้เวลาเขาลงไปในสนาม ผมเคยเขียนไว้ในบทความเกี่ยวกับ TBL ว่าด้วยเรื่องสถิติแต้มได้เสียตอนที่เขาอยู่ในสนาม ซึ่งทีมโมโนทำแต้มได้มากกว่าปกติ และ เสียแต้มน้อยกว่าปกติ เวลาเขาอยู่ในสนาม
ถึงแม้ว่าในเกมนี้ จะไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดที่จะมาสนับสนุนข้อกล่าวอ้างนั้น แต่ ค่อนข้างมั่นใจว่า ถ้าตัวเลขตรงนี้ออกมาได้ ก็จะให้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก
ตอนที่เขาลงไปในสนามครังแรก โมโนก็ทำแต้มจนออกมีผลต่างแต้มที่มากที่สุดในการแข่งครั้งนี้ พอเขาออกจากสนามไป ทิวฯ ก็ไล่ทำแต้มคืนมา จนกระทั่งขึ้นนำไป 8 แต้ม แล้วพอเขากลลับลงมาในสนามอีกครั้ง โมโน ก็ไล่บี้ทำแต้มอีกครั้ง จนพลิกกลับมาชนะได้ในที่สุด
ในเกมนี้ ไกรวิทย์ ทำไป 6 แต้ม 1 แอสสิสต์ และ ไม่มีการเสียเทิร์นโอเวอร์เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่เล่นไปถึง 16 นาที
อาจจะเป็นเพียงแค่ความบังเอิญที่ไกรวิทย์อยู่ในสนามช่วงเวลาเดียวกันกับที่โมโนรันแต้มพอดี แต่ตัวผมเองรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น
บางทีแล้ว “โส” โสฬส สุนทรศิริ อาจจะรู้สึกสบายใจกว่ากับการเล่นการ์ดตัว 2 ก็ได้ การที่มีไกรวิทย์เป็นตัวครองบอลหลักก็ทำให้ โส มีอิสระภาพในการบุกมากขึ้น ดูเหมือนว่า โส จะมีความกล้าที่จะทะลุทะลวงมากขึ้น ถ้ารู้ว่ามีตัวประคองบอลรองหลังอยู่
ตั้งแต่ที่ “บาส” กานต์ณัฐ เสมอใจ เจ็บข้อมือไปนั้น ทางโค้ชเส็ง ประเสริฐ ศิริพจนากุล ดูเหมือนว่าจะมีการทดลองให้ โส เป็นตัวการ์ด 2 มากขึ้น เหมืินในเกมที่แล้ว ที่มีการใช้ สิงห์ เป็นตัวพาบอลขึ้นมา
ส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่า คู่ของ โสฬส และ ไกรวิทย์ น่าจะทำให้การเล่นของโมโน แวมไพร์เป็นไปตามศักยภาพสูงสุดของทีมได้เลย
In my Opinion (คหสต)
ในส่วนตรงนี้ของบทความ ผมขอยกสิ่งที่ผมชอบและไม่ชอบจากการดูเกมนี้
1. จริงจังนะจ๊ะ: ไบรอันท์ ออสตินได้โชว์ให้ดูตั้งแต่ต้นเกมว่า เขาเองก็รู้ว่าเกมนี้สำคัญขนาดไหน เปิดควอเตอร์แรกไป ก็ยับไปเต็มๆ 1 ลูก,
บล็อคเต็มใบอีก 1 ครั้ง,
และก็กระทำการฆาตกรรมหมู่อีก 1 ครั้ง
แต่แล้ว เขาอาจจะมุ่งมั่นและจริงจังมากเกินไปหน่อย ภายในกลางควอเตอร์ 4 นั้น ออสตินก็เริ่มมีอาการกะเผลก และก็ต้องออกไปพักในที่สุดจากอาการตะคริวกินที่ขา ถ้าหากว่าเขายังฟิตๆ ในช่วงควอเตอร์สุดท้ายนั้นได้ ผลของเกมอาจจะเปลี่ยนไปได้เลยทีเดียว
2. บทสัมภาษณ์ต้องสาป: ไม่ใช่มีแต่เพียงออสตินที่กะเผลก “โย่ง” ภาณุรัตน์ ฉัตรศิริยิ่งยงเองก็เกิดอาการบาดเจ็บหลังจากการกระโดดยิงแล้วลงผิดท่า
ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากว่าผมเพิ่งจะสัมภาษณ์เขาไปในสัปดาห์ที่แล้ว
ก็หวังว่าจะไม่มีใครคิดว่าการที่มาสัมภาษณ์กับ Tones & Definition จะทำให้โดนคำต้องสาปให้บาดเจ็บเลย…
3. จารย์!!!: ขอออกตัวก่อนว่า ผมเคารพหน้าที่การตัดสินของกรรมการนะ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่ต้องมาวิ่งไล่กวดคนที่มีร่างกายเป็นนักกีฬาอาชีพ และยังหนุ่มยังแน่นอยู่เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นยังต้องฟังทั้งนักกีฬา และ ผู้ฝึกสอนเถียงเพื่อปกป้องสิทธิของตัวเอง โดยที่ต้องคำนึงถึงความถูกต้องของการตัดสินของตัวเองด้วย
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จริงๆ แต่บางที การตัดสินบางอย่าง มันก็ยังทำให้ฉงน…
ผมก็ไม่ได้อยู่ที่สนาม ไม่ได้เห็นสภาพเห็นการณ์เต็มๆ แต่ในเพลย์นั้น ผมก็ไม่เห็นว่ามีอะไรที่ชัดเจนออกมาว่าเป็นการฟาวล์ ไม่มีการกระทบกระทั่งที่รุนแรงกว่าปกติ ไม่มีการเล่นลูกไม้สกปรกอะไร
และสถานการณ์ก็ยิ่งน่าฉงนมากขึ้นก็ตอนที่ กรรมการมองหน้ากันด้วยอารมณ์ว่า “อ่าว คุณกำลังจะเป่าฟาวล์เหมือนกันใช่ไหม?”
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เพลย์ที่จะเปลี่ยนแปลงผลของเกมโดยสิ้นเชิง แต่ก็เป็นการเป่าที่น่าสงสัยอยู่ดี
ในสุดสัปดาห์นี้ จะไม่มีการแข่งขัน BTSL เพื่อหยุดช่วงสงกรานต์ และจะดำเนินการแข่งขันต่อในสุดสัปดาห์ถัดไปตามต่อไปนี้:
วันเสาร์ที่ 18 เมษายน เป็นการแข่งขันระหว่างทีม สโมสรโมโน แวมไพร์ กับ สโมสรการไฟฟ้าฯ ที่ตึก LED
วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน เป็นการแข่งขันระหว่าง ทีมนครปฐม แมดโกทส์ กับ ทีมสโมสรไฮเทค ที่สนามทุ่งครุ
โดยติดตามได้ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ถึง 16.00 น. ได้ทางช่อง 3 แฟมิลี่
ตามไลค์เพจของรายการแข่ง BTSL ได้ตามรูปข้างบนได้เลยนะครับ การแข่งขันดีๆ ของคนไทย น่าสนับสนุน
รูปถ่ายสวยๆ ขอขอบคุณช่างภาพคุณกุุ๊ก อรวิสา ทิวไผ่งาม