บาสเก็ตบอล เป็นเกมที่มีการขับเคี่ยวเพื่อแย่งชิงจังหวะหวะของเกมในช่วง 40 (หรือ 48) นาทีของเกม ทีมที่ดีต้องรู้จักที่จะกัดฟันรอคอยจังหวะที่จะพลิกเกม
ที่สำคัญคือ พอจังหวะนั้นมาแล้ว ก็ต้องรีบคว้ามันมาให้ได้
(For English > Click Here)
เกมนี้ก็เป็นเกมที่ถือว่าเป็น Big Match ประจำสัปดาห์ ถ้าวัดกันตามการเก็งผลว่า นี่คือสองทีมที่น่าจะจบรายการ Basketball Thailand Super League ในตำแหน่ง Top 3 ซึ่งผลการแข่งขันที่ผ่านมาก็เป็นไปตามนั้น ไฮเทคมีผลการแข่งขัน ชนะ 1 แพ้ 1 โดยแพ้ให้ทีม นครปฐม แม๊ดโกท ที่เป็นแชมป์ TBL และ Division 1 ที่ผ่านมา ส่วน ทีม Mono Vampire ก็ฉลุยมากับการชนะแข่งกับทีม ทิวไผ่งาม และ การไฟฟ้าฯ
การแข่งขันในนัดนี้ จะเป็นการตัดสินจ่าฝูงของ BTSL เป็นเวลาอีก 5 วัน จนกว่าจะเริ่มต้นการแข่งขันนัดหน้าเลยทีเดียว
แต่สถานการณ์ของ Mono Vampire นั้นก็ถือว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อย กับการที่ต้องเสีย การ์ดระดับ Superstar อย่าง บาส กานต์ณัฐ เสมอใจ ไปกับการเบ็ดเจ็บข้อมือ (หัก) จากการฝึกซ้อม

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทีม Vampire ก็ยังมีอาวุธรองรับอีกเพียบ
ทางไฮเทคนั้นมาเต็มทีม ไม่มีตัวหลักๆ ที่บาดเจ็บให้ต้องมากังวลใจ โค้ช เจอรี่ รุยส์ มีแต่กังวลว่า จะปล่อยอาวุธตัวนี้ลงไปเมื่อไหร่ดี
Back and Forth
ทั้งสองทีมฟัดกันอย่างสูสี ในสองควอเตอร์แรก จบสกอร์ แต่ควอเตอร์ห่างกัน ไม่เกิน 2 แต้ม
ไฮเทคเหมือนจะออกสตาร์ทได้เร็วและแรง จากการบุกด้วยลูกฟาสเบรกของ เจ้าเครางาม “รูเบน” วุฒิพงษ์ ดาโศม อย่างต่อเนื่อง ที่แม้ว่าจบสกอร์ไม่ได้ทุกครั้ง แต่ก็เป็นการกรุยทางแนวรับ ให้มีคนตามซ้ำง่ายๆ
ทางโมโนเองก็มีวิธีการตอบโต้ด้วยลูกไม้ตายก้นหีบ: ลูกสามแต้มของ เซนเตอร์ร่างกาย “บิ๊กกี้” แอนโธนี่ แมคเคลน!
สำหรับใครที่สงสัยนะครับ สำหรับการแข่งขันที่มีบันทึกอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ ปี 2007 นั้น แมคเคลน ยิงสามแต้มไปทั้งหมด 4 ครั้ง (ไม่ชัวร์ว่าตั้งแต่มาแข่งที่ไทยนั้น อาจจะมีการยิงไปบ้าง แต่ไม่ได้ติดตามทุกนัด เลยอ้างอิงข้อมูลได้เท่าที่มีนะครับ ขออภัยตรงนี้) ซึ่งในเกมนี้เกมเดียว เฮียยักษ์ผมสลวย เปิดควอเตอร์แรกมาก็ซัดไปหนึ่งลูกแล้ว…แถมยังลงอีกด้วย!!! ณ เวลานั้น โค้ชจิง ก็คงมีชะงักติดใจนิดนึง
แต่พอมาเพลย์ต่อมา เจ้าบิ๊กกี้ได้ใจแล้วก็ปล่อยไก่ ยิงอีกลูกที่ไม่ได้มีวี่แววจะลงเลย ก่อนจบเกม ก็ยิงไปอีก 1 ลูก
สรุปได้ว่า ในเกมนี้เกมเดียว บิ๊กกี้ ยิงไปเกือบ เท่าจำนวนที่ยิงไป ใน 7 ปีที่ผ่านมา…หรือว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น!!!!
Shifting Gears
แต่พอมาในควอเตอร์ที่สามเท่านั้นแหละ ไฮเทคก็ตบเพิ่มความกดดันเกมรับขึ้น และตบเร่งเกมบุกขึ้นอีกเกียร์นึง จนทิ้ง โมโน ไปไกลเลย โดยควอเตอร์สาม ควอเตอร์เดียว ไฮเทคทำไปได้ 24 แต้ม และเสียแต้มให้โมโนเพียง 6 แต้มเท่านั้น
ซึ่งจำนวนแต้มของโมโนนั้น ผมว่าควรให้เครดิตกับเกมรับของ ไฮเทค มากกว่าไปแคลงใจกับเกมบุกของโมโน จุดที่ชัดเจนของเกมรับของ ไฮเทคในเกมนี้ที่ทำให้เกมบุกของโมโนดูติดขัดลงไป คือ การป้องกันของ “แก้ว” กัณวัฒน์ เลิศเลาห์กุล ที่ตามติด “โส” โสรส สุนทรศิริ จนสร้างสรรค์ เกมบุกไม่ได้ดังใจเท่าไหร่
พอเกมรับของไฮเทคเข้าที ก็สามารถกดดันให้ โมโน ทำ Turnover ซึ่งเข้าทางของรูเบน ที่หายตัวไปอย่างลึกลับในควอเตอร์ที่ สอง
ทั้งรูเบน และ “เดฟ” สุขเดฟ โคเคอร์ ต่างก็เป็นผู้เล่นที่เฉิดฉายในรูปแบบเกมบุกที่กระจายออกกว้าง มีพื้นที่ให้เล่น ซึ่งการที่เปิด ฟาสเบรก หรือ มี ตัวฟาสเบรกจังหวะสอง (Trailer break) นั้นก็จะทำให้สองคนนี้ เล่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในแนวรุก เนื่องจากมีพื้นที่ให้ข้ามเข้าหาห่วงมากขึ้น
โดยสองคนนี้ก็เป็นแกนนำไปในเปิดฉากรันแต้มของไฮเทค ที่มีไฮไลท์ อยู่ลูกดั๊ง เดี่ยวๆ ของรูเบน ตามด้วยการแสดงอาการดีใจแบบสุดบ้าคลั่งแถมท้ายด้วย
พอเข้าช่วงควอเตอร์ที่ 4 ทางโมโนก็พยายามไล่แต้มกลับมา โดยการใช้ การ Press แบบ Full Court ซึ่งทางไฮเทคก็ไม่ได้พร้อมแก้มากเท่าไหร่นัก แต่ช่วงแต้มทิ้งห่างกันเกินไป รวมทั้งเกมบุกของ โมโน ที่ติดขัดทั้งวัน โดยเฉพาะมือยิง “ชอปเปอร์” จิตภณ โตเวโรจน์
แต้มท้ายสุดแล้วจบที่ 77-58 โดยเป็นฝ่าย ไฮเทคที่ชนะไปซึ่งดูกันแล้ว เหมือนมวยที่สูสีกัน 3 ยก แต่ทางโมโนแพ้ไปอย่างราบคาบในยกที่ 3 ยกเดียว
In My Opinion
ในส่วนตรงนี้ของบทความ ผมขอยกสิ่งที่ผมชอบและไม่ชอบจากการดูเกมนี้
1. วิวัฒนาการเกมบุกของ รูเบน: รูเบนเป็นคนที่มีการบุกเฟสเบรกที่ดี มีเข้าหาห่วงอย่างแข็งแรง เป็นแบบนี้มาเสมอ ในช่วงที่แข่ง ABL มาเรื่อยๆ ก็ได้เห็นมีการเสริมในส่วนของเกมยิงระยะไกล และระยะกลางเพิ่มขึ้นมาเป็นครั้งคราว และในเกมนี้ ก็ได้เห็นการบุกใน Post ของรูเบนที่มีหลากหลายมากขึ้น นอกจากจะมี Spin Move เข้าห่วงแล้ว ยังมีการ Counter Spin Move ที่คนกันดักทางได้ ย้อนกลับมา เพื่อยิงอย่างง่ายๆ อีกด้วย
ณ จุดๆ นี้ ผมคิดว่า ถ้ารูเบนสามารถสร้างจังหวะเกมบุกของตัวเองได้จากการเลี้ยงลูก น่าจะกลายเป็นที่หนึ่งของประเทศอย่างไร้ข้อกังขา
2. แต่โสรสบอกว่า ช้าก่อน…: หากว่าจะพูดถึงนักบาสเบอร์หนึ่งของประเทศ คนที่กำลังมาแรงไม่น้อยหน้าใครเลยนั่นก็คือ “โส”
โสรส สุนทรศิริ ซึ่งหลังจากที่ได้รางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยม ของ TBL แล้วเขาก็ยังต้องเติบโตขึ้นอีกขั้น โดยการแบกทีม โดยไม่มีรุ่นพี่อย่าง บาส กานต์ณัฐ คอยเสริมการทำแต้มและครองบอลอยู่ข้างๆ ซึ่งเขาก็ทำได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะลูกที่ ครอส โอเว่อร์ หลอก ณกรณ์ ใจสนุก จนหลงกลับบ้านไม่ถูกเลยทีเดียว
ทำเอาซะรุ่นพี่อย่าง “สิงห์” ชนะชล กล้าหาญ ดีใจออกนอกหน้าเลยทีเดียว
3. เอกลักษณ์เกมบุก: รูปแบบเกมบุกของโค้ช “เส็ง” ประเสริฐ ศิริพจนากุล ดูเหมือนจะให้อิสระในการสร้างสรรค์เกมสำหรับผู้เล่น ปูทางวิ่งหลวมๆ ไว้ สร้าง option ในการเลือกวิธีการบุกได้ ตามสถานการณ์
แต่สำหรับเกมบุกของ เจอรี่ รุยส์ นั้น เกมบุกของเขาจะเน้นไปทางการวิ่งเพื่อสร้างพื้นที่ในการเล่นซะมากกว่า ผมรู้สึกประทับใจช็อตนึงในเกมนี้ คือในช่วงต้นเกมที่สร้างจังหวะให้รูเบน Post วงในอย่างได้เปรียบ
- เริ่มจังหวะแรกด้วยการเปิดพื้นที่ว่างที่ต้องการจะเล่นไว้ โดนถ่ายบอลให้ เดฟยืนที่หัว แก้ววิ่งไปที่ มุม และ สตีฟ อยู่ที่ไฮโพสต์
- จังหวะต่อมาคือการ สกรีน (Screen) ของ สตีฟ ให้ทาง รูเบนวิ่งสวนมาตรงพื้นที่ว่าง อาจจะดูเป็นจังหวะง่ายๆ แต่มันก็ทำให้ รูเบนสามารถรับบอลใน Post ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถดึง แมคเคลน ออกจากข้างในได้ เนื่องจากต้องตามไปประกบ สตีฟ
- ท้ายสุดแล้ว รูเบนสามารถได้บอลใน Post สบายๆ แล้วพลิกใส่ตัวกันคือ ชอปเปอร์ ที่ได้เปรียบกว่า
เป็นจังหวะการเล่นที่ง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพดี
Big Picture
โดยรวมเป็นเกมที่เป็นการบอกอะไรกับแฟนๆ ได้หลายๆ อย่างนะครับเกมนี้ อย่างแรกเลย คือบอกว่า ไฮเทคเป็นทีมที่มีศักยภาพในการเร่งเกมที่ค่อนข้างรุนแรงมาก หากว่า สามารถกดดันได้ แล้วออกตัวฟาสเบรกได้ แต้มก็จะไหลได้ง่ายๆ ส่วนโมโน ก็แสดงศักยภาพให้เห็นว่า สามารถประคองทีมได้พอฟัดพอเหวี่ยงกับไฮเทคได้ แม้ขาดสตาร์อย่าง บาส ไปยกเว้นควอเตอร์ 3 ควอเตอร์เดียว
สองทีมนี้ก็เป็นทีมที่ทรงทีมน่าจะเกาะๆ หัวตารางกันไปจนจบฤดูกาลได้ แต่จะเป็นแบบนั้นรึเปล่า ต้องติดตามกันต่อไป!
ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ จะมีการแข่งขัน BTSL สองคู่ ตามต่อไปนี้:
วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ เป็นการแข่งขันระหว่างทีม สโมสรการไฟฟ้าฯ กับ ทีมมโมสรทิวไผ่งาม ที่สนามมหาวิทยาลัยสยาม
วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม เป็นการแข่งขันระหว่างทีม โมโน แวมไพร์ กับ ทีม นครปฐม แม๊ดโกท ที่สนามเทศบาลนครปฐม
โดยติดตามได้ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ถึง 16.00 น. ได้ทางช่อง 3 แฟมิลี่
ตามไลค์เพจของรายการแข่ง BTSL ได้ตามรูปข้างบนได้เลยนะครับ การแข่งขันดีๆ ของคนไทย น่าสนับสนุน
รูปถ่ายสวยๆ ขอขอบคุณช่างภาพคุณกุุ๊ก อรวิสา ทิวไผ่งาม
One thought on “BTSL Game Recap 22/02/15 Mono Vampires vs Hi-Tech: คว้าโอกาสมาให้ได้”