สำหรับผมแล้ว สิ่งที่ผมชอบในบาสเก็ตบอลที่สุดมักไม่ใช่อะไรที่เกิดขึ้นในสนาม แต่เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นประปรายข้างๆ สนาม สำหรับผมแล้ว รายละเอียดเล็กๆ น้อยนี่แหละ เป็นเรื่องที่สำคัญในการรับชม
27/09/14 SAIGON HEAT 74 – HI-TECH BANGKOK CITY 85
Rusty Buckets
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหมือนในส่วนของกองเชียร์ Rusty Bucket ซึ่งอยู่หลังม้านั่งทีมเยือนที่สนาม CIS ของเวียดนามนั้น เป็นสิ่งที่บันเทิงในการรับชมการแข่งขัน อย่างนึง ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของกองเชียร์ปีศาจนี้มาก่อนแล้ว แล้วก็ได้เห็นความโหดร้ายทางเทปเกมอื่นๆ ที่ผ่านมา วันนี้ก็เลยตัดสินใจว่าจะขยับออกไปจากที่นั่งเดิมตรงหลังม้านั่งทีมเจ้าบ้าน ไปอยู่ตรงม้านั่งทีมเยือนดูบ้าง เพื่อได้รับอรรถรสของกองเชียร์นี้อย่างใกล้ชิด
ในเกมนี้ ผมไปถึงสนามสายไปหน่อย ด้วยเหตุสภาพฟ้าฝน รถติด และการขับขี่จักรยานยนต์ที่ห่วยแตก เกมเริ่มการแข่งขันไปแล้วหนึ่งควอเตอร์ และทางกองเชียร์ Rusty Bucket ก็กำลังเครื่องร้อนเต็มที่
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญนั้น กองเชียร์ Rusty Buckets แทบไม่มองข้ามเลย และพร้อมที่จะนำมาขยายความ ขยายเสียงให้ทุกคนได้รับรู้ ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดหลายๆ อย่างที่ทาง Rusty Buckets นำมาล้อเลียนทีมไฮเทค
- สำหรับผู้จัดการทีม อย่างพี่แพท พัชรินทร์ รวยทรัพย์ (หากสะกดชื่อผิดก็ขออภัยนะครับ) นั่งอยู่ปลายสุดม้านั่ง และเป็นคนที่คอยบันทึกสถิติต่างๆ โดยเฉพาะ ฟาวล์ และ แต้ม เพื่อเปรียบเทียบ และ ถกเถียงกับโต๊ะกรรมการ มีอยู่ช่วงนึงที่พี่แพทลุกขึ้นไปหา โค้ช จิงห์ หลายครั้ง จน ถูกล้อเลียนมาอย่างต่อเนื่องว่าใครเป็นโค้ชกันแน่
- พี่บอย ปิยะพงษ์ พิรุณ เป็นนักกีฬาที่กำลังใจฮึกเหิมเสมอ ทั้งในและนอกสนาม และเมื่ออยู่นอกสนาม เขาก็มักจะอดใจไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมาแสดงอาการตามเนื้อเกม กองเชียร์ Rusty Bucket ก็มักจะคอยกัด บอกให้ กลับไปนั่งที่เดิมซะ! ตรงส่วนนี้ ต้องให้คะแนนพิเศษกับ Rusty Bucket จริงๆ ที่กัดได้ทุกช็อต เพราะว่าพี่บอยก็ลุกขึ้นตลอด…และก็ต้องให้คะแนนกับพี่บอยด้วย เพราะไม่ย่อท้อต่อการล้อเลียน และลุกขึ้นให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมต่อไป
- ไม่นานนัก เจ้าของทีมอย่าง เฮียต่าย นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร ก็เอือมระอา และต้องเดินไปที่โต๊ะกรรมการ เพื่อแจ้งปัญหาเกี่ยวกับกองเชียร์นี้ จุดนี้กลายเป็นเชื่อเพลิงให้เหล่าฝรั่งกลุ่มนี้อีก โดยเอามาใช้ล้อเลียน ว่าเป็นทีมเด็กขี้แย ล้อเลียนด้วยเสียงงอแงของเด็ก และอีกสารพัด ยามของสนามต้องเดินเข้ามาตักเตือนเป็นครั้งคราว แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อกันอยู่ดี และยังคงก่อกวนต่อไป ให้คะแนนพิเศษสำหรับความพยายามครับ
- จุดไลคแม็กซ์ของกองเชียร์ในเกมนี้ คงจะเป็นเป้าหมายหลัก สุขเดฟ โคเคอร์ เจ้าเดฟกำลังอยู่ในช่วงที่โดนโค้ชจิงห์ดองอยู่ข้างสนาม และได้ลงเพียง 9 นาทีต่อเกมเท่านั้น (ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าน่าจะน้อยเกินไป มากๆ) กองเชียร์ Rusty Buckets ก็คอยแซวเจ้าเดฟตลอดเวลาที่นั่งอยู่ข้างสนาม จุดพีค คือตอน ควอเตอร์ที่สอง ที่ แพทริก คาบาฮัก โดนฟาวล์ และเหลือเวลา 24.7 วินาที โค้ชจิงห์ เรียกให้เดฟไปเปลี่ยนตัวหลังจากลูกโทษลูกที่สอง แต่คาบาฮัก ดันพลาดลูกที่สอง จึงไม่สามารถเปลี่ยนตัวลงได้ ท้ายสุดแล้วก็โดนเผาจนหมดเวลา และเจ้าเดฟก็อดลงสนามไป ทันทีที่สัญญาณหมดเวลาดังขึ้น เดฟก็เดินกลับมาที่ม้านั่งโดยที่รู้อยู่แก่ใจว่าจะต้องโดนแซวยับเยิน และก็เป๋นเช่นนั้นจริงๆ ไม่รู้ว่าทาง Rusty Bucket นั้น โชคดีที่เค้าเลือกเป้าหมายวันนี้เป็น เจ้าเดฟที่ไม่ค่อยได้ลงอยู่แล้ว หรือว่ามีการศึกษา สถิติ มาอย่างละเอียดมาก่อน
ขอจบส่วนตรงนี้ด้วยช็อตโดนๆ ของกองเชียร์กลุ่มนี้อีกรอบนะครับ
พื้นที่โฆษณาฟรีจ้า: The Rusty Bucket เป็นชื่อผับแอนด์เรสเตอร์รอง ที่อยู่ในเมืองโฮจิมินต์ซิตี้ ตามที่อยู่นี้ ตัวผมเองไม่เคยไปมาก่อน แต่ก็หวังว่าเร็ววันนี้ จะได้ไป
มืออาชีพ (Professionalism)
นั่งดูเจ้าเดฟดูดซับคำล้อเลียนจากกองเชียร์แล้วก็ตระหนักได้ว่า การที่จะเป็นนักกีฬาอาชีพได้ นอกจากฝีมือแล้ว ยังต้องมีความเป็นมืออาชีพอีกด้วย (ซึ่งการที่เป็นมืออาชีพ ต้องมีความเป็นมืออาชีพ…ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไหร่สินะ) ผมประทับใจว่าแต่ละคนจัดการกับกองเชียร์เหล่านี้ยังไง ไม่ว่าจะเป็นพี่นพ อรรถพร เลิศมาลัยพร ที่ลุกขึ้นแท็กมือกับกองเชียร์นี้ และ ก็ เทรเนอร์ รอย และ ผู้จัดการทีม แพท ที่เดินไปตีตูดเบาๆ เมื่อโดนท้าทาย
หมายเหตุ ทีมอื่นๆ อาจจะจัดการกับกองเชียร์ปีศาจนี้ได้ดีพอๆ กัน กับทีมไฮเทค แต่เนื่องจากผมไม่เคยไปติดตามโดยตรง เลยไม่ได้ยกตัวอย่างอื่นๆ ขึ้นมา
ทางผู้เล่นของไฮเทคก็มานั่งคุยกันขำๆ หลังจากจบเกมว่า จริงๆ แล้วที่ไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไร ก็เพราะว่า ไม่ได้เข้าใจภาษาอังกฤษที่เขาพ่นใส่ (ฮา) แต่เอาเข้าจริงๆ ถ้าเราโดนใครซักคนล้อเลียน หรือ เยาะเย้ย ไม่ว่าจะภาษาอะไร ก็คงเข้าใจกันหมดแหละ
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างความเป็นมืออาชีพของ นักกีฬาอาีพเหล่านี้ (ทุกคนใน ABL ไม่ใช่เพียงแต่ไฮเทค) ที่ทำให้เกมนี้ สนุกสนานขึ้นมาได้
ดึ๋ง (Springy)
ในเกมนี้ เดวิด อาร์โนล์ด ทำแต้มกระหน่ำ ซัดไป 23 แต้มจากการยิง 15 ลง 9 ลูก ส่วนนึงที่ชอบในเกมของเดวิด คือลูก ปั๊มเฟคที่แทบจะหลอกจังหวะการยิงไปจนสุดปลายเท้า ซึ่งทำให้คนกัน กันยาก เพราะช่วงการหลอกนานกว่าปกติ
ขอคั่นรายการซักครู่ด้วยภาพขอราฮาตกใจที่โดนสัมภาษณ์เป็นภาษาเวียดนาม…ในประเทศเวียดนาม:
ASEAN’s Dirk
ดัสติน สก็อตเป็นนักบาสที่เกมหลากหลายที่สุดใน ABL เลยก็ว่าได้ ซึ่งก็พอฟัดพอเหวี่ยงก็ คริส เอเวอร์สลี่ ของ KL Dragons แต่ทางคริส จะเน้นการบุกจากวงนอกมากกว่า ไม่ค่อยได้ฟัดวงในเท่าไหร่นัก ส่วนทางดัสติน สก็อต จะมีโอกาสได้คลุกวงในมากกว่า
แต่เมื่อดัสตินได้ออกไปโลดแล่นภายนอกแล้ว เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่ใช่น้อย
ไม่ใช่เรื่องที่ยุติธรรมเท่าไหร่ที่จะมีปีกที่ตัวสูง สามารถยิงสามแต้มได้ และสามารถเลี้ยงบอลฉีกตัวกันได้ขนาดนี้ ถ้าเอาตัวใหญ่ไปประกบ อย่างคริส ชาร์ลส์ ก็จะโดนเลี้ยงกระชาก ถ้าเอาตัวเล็กกว่าไปประกบ ถ้าไม่โดนโพสใส่ใต้แป้น ก็จะโดนยิงข้ามหัว เป็นเรื่องที่ได้เปรียบสำหรับทางไซ่ง่อน ฮีต ที่เอามาใช้อยู่บ่อย
ย้อนเวลาหาจิ๋นซี (Turning back the clock)
ในส่วนต่อไปนี้ จะพูดถึงนักกีฬาที่อายุ 33 ปีขึ้นไป ที่ยังคงทำอะไรราวกับตอนอายุ 20 ต้นๆ
พี่บอย ปิยะพงษ์ พิรุณ: ในปีนี้ก็ลงสนามเป็นครั้งคราว แต่ส่วนใหญ่รับบทบาทในการเป็นผู้นำทีม และ คอยสั่งสอน ชี้แนะเกม แต่เมื่อเขาได้ลงสนาม ก็มักจะมีอะไรให้ตื่นเต้นอยู่บ่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น ลูกครอสโอเว่อร์สุดโหดที่ทำให้ ลีโอ อาเวนิโด้ลงไปนอนพับกับพื้นเลยทีเดียว
ลีโอ เองทนไม่ไหว ต้องเอาที่คาดผมมาปิดตาเลย
พี่บอยเลย์อัพลูกนี้ไม่ลง ซึ่งก็อาจจะทำให้ความเท่ของลูกนี้ลดลงมาหน่อยนึง แต่การที่ได้เห็นนักกีฬาที่ต้องมาชะลอตัวลงไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ได้กลับมาโชว์ลีลาแพรวพราวแบบนี้ ก็ตื่นเต้นดี
ฟรอยลัน บาเกี้ยน: จับบอลใส่มือ เจ้าฟรอย และก็รับประกันได้เลยว่า เขาจะต้องเสกมนต์อะไรซักอย่างขึ้นมาแน่นอน หลังๆ มานี้ ก็เหมือนว่า อายุจะทำพิษ เชื่องช้าลงบ้าง แต่ การเน้นศักยภาพร่างกายก็ไม่ใช่เกมของเขาตั้งแต่แรก การที่ได้เห็นบาเกี้ยนร่ายมนต์บนสนามเป็นอะไรที่สหัศจรรย์เสมอ
สตีฟ โธมัส: ด้วยจำนวนนาทีที่ไฮเทคใช้งานโธมัสต่อเกมรวมกับอายุที่เริ่มโรยรานั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ในบางจังหวะ เขาก็เลือกที่จะยิงระยะกลาง หรือ ยิงใต้แป้นสบายๆ แทนที่จะบู๊เข้าไปเต็มอัตราสูบ แต่ในเกมนี้ เขากลับเข้าหาแป้นแล้วยัดลงไปอย่างทรงพลัง ถึง สองครั้ง เลยทีเดียว ซึ่งยัดลงไปเสร็จก็ตามด้วย ใบหน้าเกรี้ยวกราดแสดงอาการราวกับจะถามว่า “มึงได้กลิ่นอะไรไหม้ป่าวว้า?”
เพื่อความบันเทิง เราจัด ป๋าสตีฟที่ทำหน้า “มึงได้กลิ่นอะไรไหม้ป่าวว้า?” มาให้โดยใส่ลูบไม่มีวันสิ้นสุด
All the small things
ในขณะที่ฤดูกาลนี้กำลังค่อยๆ ปิดตัวลงไป ก็อยากจะบอกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ได้ติดตามลีกนี้ และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมดในลีกนี้ที่ได้สร้างความบันเมิงให้ทุกคน ก็เป็นช่วงเวลาที่ดี และคาดหวังว่า ทุกๆ ทีม ลีก และ แฟนๆ ทุกๆ คน จะพัฒนาก้าวไปด้วยกัน สร้างลีกบาสเก็ตบอลที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
รูปภาพโดย น้อง Kuk Onvisa Thewpaingarm
One thought on “ABL Recap: รายละเอียดเล็กน้อย”